จับแล้ว "กองร้อยปอยเปต" ตร.พาร่วมนั่งแถลง รับตุ๋น "ชาล็อต" อ้างต้องทำไม่งั้นโดนทรมาน
ตำรวจกองปราบปรามตามรวบแก๊งคอลเซนเตอร์ ปลอมตัวเป็นตำรวจ หลอกเหยื่อคนไทยโอนเงิน ตรวจสอบพบ เคยหลอก "ชาล็อต"
นี่เป็นคลิปของนาย ธนาวุฒิ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งคอลเซนเตอร์ แต่งกายเป็นตำรวจวิดิโอคอลมาหลอกเหยื่อคนไทย ทั้งข่มขู่ และพูดให้เหยื่อหลงเชื่อจนต้องโอนเงินให้ ก่อนที่ตำรวจกองปราบปรามจะตามไปรวบได้ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน สมคบกันโดยการตกลกกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน
นอกจากนี้ยังตามรวบนาย รามิล อายุ 31 ปี ที่บ้านพัก ใน ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ทั้งคู่มีหมายจับของศาลในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ได้อีก 1 คนด้วย
การติดตามจับทั้งคู่ครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหายว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ผู้เสียหายดู ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อยอมโอนเงินไปกว่า 4 ล้านบาท ก่อนจะมารู้ภายหลังว่าเป็นพวกแก๊งคอลเซนเตอร์ เมื่อตรวจสอบในระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อใน ลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 163 ราย
นาย รามิล รับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจากระบบซิมบ็อกที่มีการเซ็ตระบบไว้ และจะต้องพูดตามสคริปที่บอสชาวจีน และคนคุมงานซึ่งเป็นคนไทยส่งมาให้ เมื่อผู้ต้องหาพูดชักจูงเหยื่อจนเหยื่อเริ่มหลงเชื่อแล้ว จากนั้นจะมีการส่งต่อไปให้กับสาย 2 เพื่อดำเนินการ
ขณะที่นายธนาวุฒิ ทำหน้าที่เป็นสายที่ 2 จะแต่งกายด้วยชุดตำรวจวิดีโอคอล ทำหน้าที่เป็นคนปลอบใจ อ้างว่าผู้เสียหายมี ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่ง 1 ในสายที่เขาเคยหลอก คือ "ชาล็อต" นางงามมิสแกรนด์ และยังมีนางงามอีกราย
หากเหยื่อหลงเชื่อแล้วจะมีคนร้ายที่เรียกว่าสาย 3 ทำหน้าที่ปิดดีล หลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ แต่ในระหว่างการหลอกลวงจะมีทั้งคนไทยและคนจีนทำหน้าที่เป็นคนควบคุม คิดสคริปต์ในการหลอกลวง หากเขาไม่ปฏิบัติตามหรือต่อต้านจะถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าหลอกเหยื่อโอนเงินมาได้ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากเงินที่เหยื่อโอนมา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้เขาก็เอาไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด
นาย ธนาวุฒิ บอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีตำรวจกัมพูชามาตรวจสอบที่อาคารปีละ 4-5 ครั้ง ทุกครั้งพวกเขาจะเข้าไปซ่อนแล้วก็ล็อคห้องเหมือนไม่มีคนอยู่ ส่วนที่ไม่ออกมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจกัมพูชา เพราะไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ ประกอบกับเคยหลบหนีไปขอความช่วยเหลือที่สถานทูตไทย แต่ถูกจับได้ก็ถูกทุบตีด้วยไม้เบสบอลจึงไม่กล้าหลบหนีอีก
แล้วที่ครั้งนี้กลับไทยมาได้ เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจ พวกแก๊งคอลเซนเตอร์เห็นว่าทำงานต่อไม่ได้ จึงให้เงินติดตัวกลับมา 4 หมื่นบาท แต่กลับมาได้แค่ 2 สัปดาห์ก็โดนตำรวจจับ
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า เคสนี้ใช้เวลาครึ่งปีในการขยายผล โดยพบว่ากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าไปอยู่ในอาคาร 18 ชั้น โดยแก๊งนี้พักอยู่ที่ชั้น 13 มี 50 คน ผู้ต้องหาอ้างว่า ถูกชักจูงผ่านโซเชียล บอกว่า ให้ไปทำงานเป็นแอดมินชักชวนให้เล่นพนันเพื่อหารายได้ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทาง และโทรศัพท์ แล้วถูกบังคับให้มาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยบริเวณอาคารจะมีคนคุมและเฝ้าที่หน้าตึก และที่ชั้น 3 ที่ผ่านมาจากข่าวที่ปรากฏพบว่า เคยมีคนไทยเสียชีวิตจากการกระโดดตึกแห่งนี้ถึง 2 ราย
จากการจับกุมพบว่าขบวนการนี้ได้มีการใช้ AI ปลอมแปลงใบหน้าทำให้ยากต่อการจับกุม ส่วนเรื่องของเงินจากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า เงินที่หลอกมาได้มีการแปลงเงินเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล แล้วฟอกเงินเป็นสกุลเงินต่างๆ เช่น ไทย เวียดนาม ก่อนจะแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้กับผู้ร่วมขบวนการ
พฤติการณ์ในการหลอกลวงผู้เสียหายจะประกอบไปด้วย 3 สาย โดยสายแรกจะข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีความผิดฐานฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนจะโอนไปยังสายที่ 2 เพื่อพูดคุยโน้มน้าวปลอบให้เหยื่ออยู่ในสาย โดยตัวเองทำหน้าที่นี้อยู่หากโอนเงินมาให้ตรวจสอบจะปลอบเหยื่อว่าได้เงินคืนอย่างแน่นอน ก่อนจะโอนไปยังสายที่สามซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ โดยบทบาทที่มีการแอบอ้างจะอ้างตัวเป็นตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruangden/432287
-------------------
เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น.
#เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News )
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com
facebook : https://www.facebook.com/3Plusnews
Twitter : https://twitter.com/3Plusnews
YouTube : https://www.youtube.com/c/3PlusNews
Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews