MENU

Fun & Interesting

แม่หม้ายผมแดงแผลงฤทธิ์ /แม่หม้ายผมแดงต้องการพิชิตใจแต่ข้ามเส้นจนทำให้เกิดเหตุ #เรื่องสั้น

Video Not Working? Fix It Now

ช่อง"หลอนหลังไมค์" ได้รวมช่อง 2 ช่องคือ 🥰หลอนหลังไมค์ 🥰เล่าเรื่องกรรม ของพี่บุ้งรวมไว้ให้ทั้ง2ช่องในลิ้งนี้แล้วค่ะ👇 เป็นเพื่อนสามารถฟังยาวๆก่อนนอนได้เลยจ้า..🥰 https://youtube.com/playlist?list=PLq-DdPxr29YBFdkqdRKlN90vF7i5RhCXj&si=7oGRbxPWPQl5ZuwF 🙏🙏🙏 ก๋วยเตี๋ยวตึกเก่า กลางย่านชุมชนแออัดที่เต็มไปด้วยผู้คนเดินขวักไขว่ เสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไปมา เสียงแม่ค้าเร่ขายของดังลั่น บนถนนสายแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านรวงเล็ก ๆ มีตึกเก่าหลังหนึ่งที่ดูโทรมไปตามกาลเวลา สีของกำแพงลอกออกเป็นแผ่น ๆ แต่ถึงจะเก่าแค่ไหน ร้านก๋วยเตี๋ยวของ “เจ๊กวง” ก็ยังคงเปิดขายอยู่เหมือนเดิม "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสได้แล้วจ้า!" เสียงของเจ๊กวง หญิงวัย 60 ปี ที่แม้ผมจะมีสีขาวแซมอยู่เต็มศีรษะ แต่ยังคงมีแรงทำมาหากินอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกเช้าเธอจะเป็นคนยืนประจำหน้าเตาลวกเส้น ลวกถั่วงอก โรยต้นหอมผักชี ตักน้ำซุปหอม ๆ ลงในชามด้วยความชำนาญ กว่า 30 ปีแล้วที่เธอทำแบบนี้มาตลอด ลูกค้าประจำหลายคนคุ้นเคยกับก๋วยเตี๋ยวของเจ๊กวงดี บางคนกินตั้งแต่เด็กจนโต บ้างก็พาลูกหลานมานั่งกินกันที่โต๊ะไม้เก่า ๆ หน้าร้าน ถึงจะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่อบอุ่นไปด้วยเสียงพูดคุยของลูกค้า สองแม่ลูกที่ทำมาหากินกันตามลำพัง แม้ว่าร้านนี้จะมีคนช่วยขายอยู่สามคน แต่คนที่ทำงานหลัก ๆ มีเพียงสองคน คือ “กฤษณะ” หรือ "กิต" ลูกชายวัย 35 ปีของเจ๊กวง และเจ๊กวงเอง กิต เป็นคนรูปร่างสูง ผิวคล้ำจากการทำงานหนักอยู่ในครัวตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กจนโต เขาช่วยแม่อยู่หลังร้านมาตลอด ไม่ได้เรียนสูงเหมือนเพื่อนคนอื่น เพราะต้องอยู่ช่วยแม่ทำมาหากิน พ่อของเขามีอยู่ แต่ไม่เคยช่วยงานจริงจัง พ่อของกิตเป็นชายวัย 65 ปี ที่แต่งตัวดี ชอบใส่เสื้อเชิ้ตรีดเรียบกริบ บางวันก็ใส่สร้อยทองโชว์ให้เพื่อนบ้านเห็น เขาไม่ชอบทำงานหนัก ส่วนใหญ่จะออกไปนั่งเล่นคุยกับคนแถวนี้ บางทีก็ช่วยเสริมลูกค้าเรียกลูกค้าเข้าร้านบ้าง แต่ก็แค่ยืนพูดคุย ไม่ได้จับกระบวยลวกเส้นเหมือนเมียตัวเอง "จะให้พ่อไปลวกก๋วยเตี๋ยวเหรอ? มือฉันสั่นไปหมดแล้ว!" เป็นประโยคที่กิตได้ยินจนชิน เพราะพ่อชอบอ้างว่ามือไม้ไม่ดี ทำอะไรหนัก ๆ ไม่ได้ แต่เวลาออกไปนั่งจิบกาแฟคุยกับเพื่อน ๆ กลับดูแข็งแรงดี ชีวิตประจำวันที่เหมือนเดิมทุกวัน ทุกเช้ากิตต้องไปจ่ายตลาด ซื้อหมู ซื้อลูกชิ้น ซื้อน้ำซุป กลับมาเตรียมวัตถุดิบให้แม่ พอถึงเวลาขาย เขาก็ต้องเดินเข้าเดินออกหลังร้าน เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว เก็บจาน ล้างถ้วยชาม จัดโต๊ะ ทำทุกอย่างที่แม่สั่ง "กิต! ไปหยิบลูกชิ้นมาให้แม่หน่อย!" "กิต! น้ำซุปหมด เติมให้หน่อย!" เสียงเรียกของเจ๊กวงดังเป็นระยะ ส่วนกิตก็รีบทำตามคำสั่ง เขาไม่ได้บ่น เพราะเขารู้ว่าร้านนี้เป็นรายได้เดียวของครอบครัว แม้ว่าชีวิตของสองแม่ลูกจะเต็มไปด้วยความเหนื่อย แต่ก็ยังมีลูกค้าประจำคอยอุดหนุนเสมอ บางคนมาไม่ใช่แค่กินก๋วยเตี๋ยว แต่ก็มานั่งคุยกับเจ๊กวง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันเหมือนเป็นญาติสนิท "เจ๊กวง วันนี้ทำไมดูเหนื่อยจัง?" "เฮ้อ... แก่แล้วมันก็เหนื่อยแบบนี้แหละ แต่ก็ต้องขายต่อไป จะให้ทำยังไงได้ล่ะ" แม้จะเหนื่อย แต่รอยยิ้มของเจ๊กวงก็ยังคงมีให้ลูกค้าเสมอ ความฝันของกิตที่ไม่เคยเป็นจริง แม้ว่ากิตจะอยู่ช่วยแม่มาทั้งชีวิต แต่เขาก็เคยมีความฝันเหมือนกัน เขาอยากไปทำงานที่อื่น อยากออกไปใช้ชีวิตแบบคนอื่นบ้าง แต่พอคิดถึงแม่ที่ยังต้องลวกก๋วยเตี๋ยวขายคนเดียว เขาก็ทำไม่ลง "แม่ขายอยู่คนเดียวไม่ไหวหรอก" สุดท้ายเขาก็ต้องอยู่ช่วยแม่ต่อไป ก๋วยเตี๋ยวตึกเก่า... ที่ยังคงอยู่ ก๋วยเตี๋ยวของเจ๊กวงยังขายอยู่ทุกวัน ไม่ว่าแดดจะร้อน ฝนจะตก ร้านนี้ก็ไม่เคยปิด คนแถวนี้รู้ดีว่า ถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ ต้องมาที่นี่ แม้ว่ากิตจะรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีชีวิตแบบที่ตัวเองอยากมี แต่ทุกครั้งที่เห็นแม่ยิ้มให้ลูกค้า เห็นแม่ลวกเส้นด้วยความตั้งใจ เขาก็รู้ว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวนี้ ไม่ใช่แค่ร้านธรรมดา แต่มันคือชีวิตของครอบครัวเขาเอง เขาคงอยู่ช่วยแม่ต่อไป... ตราบใดที่ตึกเก่านี้ยังไม่ถูกทุบทิ้ง. เรื่อง: ผัวเจ๊กวงกับนิสัยเจ้าชู้ที่แก้ไม่หาย ช่วงกลางวันเป็นเวลาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของเจ๊กวงคึกคักที่สุด โดยเฉพาะช่วงพักเที่ยง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศที่อยู่แถวนี้ เดินเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวกันเป็นกลุ่ม ๆ ร้านเล็ก ๆ ของเจ๊กวงจึงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงตะเกียบกระทบชาม เสียงซดน้ำซุป และเสียงเรียกลูกค้าอันคุ้นเคยของ ลุงชิต ผัวของเจ๊กวง "น้อง ๆ มากินก๋วยเตี๋ยวเหรอ? มากินทุกวันแบบนี้ แสดงว่าคิดถึงพี่แน่เลยใช่ไหม?" "วันนี้สวยจังเลยนะ แต่งหน้ามาพิเศษให้พี่ดูรึเปล่า?" "น้อง ๆ มากินก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ทุกวันแบบนี้ ระวังพี่ตกหลุมรักนะ!" คำพูดของลุงชิตทำให้สาว ๆ ที่มากินก๋วยเตี๋ยวหัวเราะแห้ง ๆ บางคนก็แค่ยิ้มแล้วรีบก้มกินต่อ ไม่มีใครเล่นด้วยจริงจัง เพราะทุกคนรู้ดีว่าลุงชิตเป็นแค่ "คนปากหวาน" แต่ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น เจ๊กวงซึ่งยืนอยู่หน้าเตา ลวกเส้นอยู่ตลอด เห็นพฤติกรรมของผัวทุกวัน แม้จะรู้ว่าไม่มีใครจริงจังกับเขา แต่เธอก็ไม่ชอบใจอยู่ดี ค่ำคืนหลังเลิกร้าน หลังจากขายของมาทั้งวัน เจ๊กวงก็เก็บร้านเช็ดโต๊ะ ล้างอุปกรณ์จนสะอาดเรียบร้อย กิตก็ช่วยหลังร้าน ส่วนลุงชิตก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าร้าน เอาพัดลมเก่า ๆ เป่าใส่ตัวเอง แล้วนั่งจิบชาร้อน ๆ อย่างสบายใจ คืนนี้อากาศร้อนกว่าปกติ เสียงรถยังคงดังอยู่จากถนนหน้าร้าน แต่เจ๊กวงไม่มีอารมณ์จะสนใจ เธอเดินมาหาผัวที่กำลังนั่งสบายใจ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดขึ้นมา "ชิต ฉันขอพูดอะไรหน่อยสิ" ลุงชิตเหลือบมองเมีย ก่อนจะพยักหน้า "ว่ามาเลย เจ๊กวง มีอะไรเหรอ?" "เรื่องที่แกชอบไปแซวลูกค้าผู้หญิง ฉันว่าแกควรจะเพลา ๆ ลงหน่อย" ลุงชิตทำหน้าสงสัย "แซวอะไร? ฉันก็พูดไปตามประสา คนกันเองทั้งนั้น" "แกคิดแบบนั้น แต่ลูกค้าเขาอาจจะไม่ชอบก็ได้นะ" เจ๊กวงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "บางทีเขาอาจจะอึดอัด แต่ไม่พูดออกมาก็ได้" "โอ๊ย ใครจะอึดอัดกัน ฉันแค่หยอก ๆ ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย" ลุงชิตหัวเราะเบา ๆ

Comment