MENU

Fun & Interesting

อนิจจสังขารา – ความจริงของสังขารและวิถีแห่งปัญญา : หลวงปู่นิภา นิภาธโร

Video Not Working? Fix It Now

เจริญในธรรม ท่านผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย วันนี้ข้าพเจ้ามาพักที่เขาค้อ ณ สำนักเจดีย์พระพุทธเจ้า 108 วันเวลาผ่านไป สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติธรรมก็คือการเข้าใกล้ความจริงของชีวิต ได้เห็นสัจธรรมของสังขารโดยตรง สังขารกับจิตวิญญาณ: ความย้อนแย้งที่ต้องตระหนัก สังขารเปรียบเสมือนสิ่งที่เราคุ้นเคยและยึดติดมาตลอด เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและเหนียวแน่นในจิตใจของเรา ทำให้เราคิดว่าสังขารเป็นตัวตนของเรา เป็นของเราอย่างแน่นแฟ้น แต่เมื่อถึงละครฉากสุดท้ายของชีวิต เช่น เมื่อต้องเผชิญกับความตายของผู้เป็นที่รัก เช่น แม่สมพรที่จากไป เราจึงเห็นความจริงว่าสังขารเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง ในชีวิต เราเห็นการเกิดและตายของสรรพสัตว์มากมาย แต่ไม่เคยใส่ใจลึกซึ้ง เพราะเรามองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทว่าเมื่อได้สัมผัสกับความจริงของความตายใกล้ชิด เราจะเห็นว่าการยึดมั่นในสังขารเป็นเพียงมายา เป็นสิ่งที่ต้องปล่อยวาง การยอมรับความจริงของชีวิต เมื่อข้าพเจ้าเดินทางไปลพบุรี ไปกราบพระครูธวัชชัย ได้พบความจริงของชีวิตที่สะท้อนอยู่ในทุกสถานที่ ทุกชีวิตล้วนมีปลายทางเดียวกัน คือความเสื่อมไปของสังขาร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย แก่หรือหนุ่ม สุดท้ายแล้วร่างกายก็ต้องแตกดับ วิญญาณออกจากร่างไป สิ่งที่ติดตามไปคือสัญญา ความทรงจำ และการกระทำที่เราได้สร้างไว้ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความตาย หลายคนบอกว่าไม่กลัวตาย แต่แท้จริงแล้ว หลายคนฆ่าตัวตายเพราะต้องการหนีทุกข์ มิใช่เพราะความกล้าหาญ ความทุกข์ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย แต่อยู่ที่จิตวิญญาณ แม้ร่างกายจะแตกดับ แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือผลของกรรมและสัญญาที่เราสะสมไว้ ผู้ที่ฝึกจิตและยอมรับความจริงจะเห็นว่าสังขารเป็นเพียงที่พักชั่วคราว ร่างกายเป็นเพียงบ้านเช่าที่หมดอายุขัยแล้วก็ต้องคืนกลับไป ถ้าเรายึดติดกับมันมากเกินไป เราก็จะทุกข์ การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท บุคคลผู้มีปัญญาจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ไม่ว่าชีวิตจะอัตคัดหรือลำบากเพียงใดก็ต้องมีสติสำรวมกาย วาจา และใจ การฝึกสติคือการเตรียมตัวสำหรับละครฉากสุดท้ายของชีวิต คนที่ไม่ตระหนักถึงความไม่เที่ยงของชีวิต เปรียบเสมือนนักกีฬาที่ไม่เคยฝึกซ้อม เมื่อถึงเวลาสำคัญก็ไม่สามารถรับมือได้ ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่เตรียมใจรับความจริง ยอมรับว่าสังขารเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว จะใช้ชีวิตด้วยปัญญา ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่มุ่งแต่เสพสุขทางกาย วิถีของผู้ไม่ประมาท พระพุทธเจ้าทรงออกแบบวิถีชีวิตของนักบวชให้เรียบง่ายเพื่อลดภาระของสังขาร เช่น การปลงผม การใช้จีวรแบบเรียบง่าย เพื่อลดความยึดติดกับวัตถุภายนอก นักบวชจึงเป็นผู้ที่ไม่เป็นหนี้โลกมากนัก ใช้ทรัพยากรแต่พอดี และมุ่งเน้นการพัฒนาจิตใจให้ก้าวหน้า บุคคลที่เห็นสังขารตามความเป็นจริง จะไม่ยึดมั่นในมันมากเกินไป จะใช้มันเป็นเครื่องมือในการสร้างบารมี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภพภูมิข้างหน้า ชีวิตก็เหมือนบ้านเช่า เราอาศัยมันอยู่ชั่วคราว เมื่อต้องคืนบ้าน เราควรพร้อมที่จะไปต่อ ผู้ที่หลงใหลในบ้านเช่า ตกแต่งมันด้วยความฟุ่มเฟือย แต่ไม่ได้เตรียมเสบียงสำหรับวันข้างหน้า ก็จะลำบากเมื่อต้องจากไป ขอให้ทุกท่านพิจารณาความจริงของสังขาร ใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีศีล มีปัญญา และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางต่อไปในภพภูมิข้างหน้า ขออนุโมทนาแก่ทุกท่านที่เข้าใจและปฏิบัติตามธรรม ขอให้บุญกุศลที่ได้ทำมา นำพาท่านไปสู่ปัญญาและความพ้นทุกข์เทอญ

Comment