MENU

Fun & Interesting

ธรรมที่หยั่งรู้ยาก หลวงปู่ชา สุภทฺโท

Video Not Working? Fix It Now

ความเป็นจริงนั้นเรานับถือพระพุทธเจ้าของเรา เทิดทูนพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยิ่งกว่าอะไรทั้งหลายทั้งนั้น แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ของเล่นๆ จะต้องเป็นผู้ฉลาดพอสมควร ต้องฉลาดในการสอนจิตของตัวเอง เอาออกมาฝึกให้มากๆ จิตของเรานี้จะบีบมันมากก็ไม่ได้ จะปล่อยมันก็เลอะเทอะพระพุทธองค์ท่านตรัสว่า สอนตัวอย่างไรสอนคนอื่นอย่างนั้น ตัวทำอย่างไร จึงให้คนอื่นทำอย่างนั้น ไม่ใช่ของเล่นๆหรอกโยม โยมไปมองดูพระท่านบวช ก็นึกว่าท่านสบาย อย่างเช่นเรื่องอาจารย์ดี จะเล่าให้ฟัง อาจารย์ดี ศิษย์หลวงปู่มั่น อาจารย์ดีที่เป็นคู่กับอาจารย์ทองรัต เป็นพระกรรมฐานรุ่นกลางไม่ใช่รุ่นแรก ที่เป็นศิษย์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต เที่ยวบิณฑบาตไปฉันตามบ้านป่า บางทีบางบ้านก็ไม่รู้เรื่องเลย พระไปบิณฑบาตก็ใส่แต่ข้าวจะเอาอาหารใส่บาตรหรือก็ไม่เคยทำกัน บางแห่งก็ว่าพระกรรมฐานท่านฉันแต่หวาน อย่างอื่นท่านไม่ฉันหรอก พอไปบิณฑบาตตามบ้านเขาก็เอาข้าวเปล่าใส่เท่านั้นแหละ พระจะไปบอกให้เขาเอาอาหารใส่บาตรก็ไม่ได้ เป็นอาบัติ บางทีพระไปพักอยู่เป็นเดือนๆ เขาก็ยังไม่เข้าใจ ทีนี้ท่านอาจารย์ดีท่านไปบิณฑบาตในบ้านที่ยังไม่เคยไป โยมก็ใส่แต่ข้าว ตอนฉันจังหันเขาก็ตามไป ท่านก็ฉันจังหันอยู่อย่างนั้นแหละฉันแต่ข้าวเปล่าๆ เพราะของมันอยู่ในบาตร โยมเขาก็มองไม่เห็น เห็นพระเอามือล้วงลงไป ท่านก็เอาขึ้นมาฉันสบายๆ ก็นึกว่าอาหารท่านเยอะแยะแล้ว ท่านอาจารย์ดีท่านฉันข้าวเปล่าๆอยู่ ๗ วัน ท่านก็คิดว่า "จะทำอย่างไรดีหนอ" พระกรรมฐานนี่ท่านก็มีปัญญาพอสมควรเหมือนกันนะ วันหนึ่งท่านก็เอาฝาบาตรหงายขึ้น จับเอากาน้ำมารินใส่มีแต่น้ำเท่านั้นแหละ โยมก็ตามมานั่งอยู่จะมาฟังธรรม ท่านก็เอาข้าวเหนียวมาปั้นแล้วก็จิ้มกับน้ำในฝาบาตรที่รินมาจากกาน้ำนั่นแหละท่านก็ฉันข้าวไป โยมเขาก็มองท่าน ท่านก็ฉันของท่านไปเรื่อยๆ โยมสงสัยก็ถาม "เอ้า หลวงพ่อทำไมฉันอย่างนั้นเล่า ทำไมฉันข้าวกับน้ำ" ท่านก็ว่า "มันมีอย่างนี้ก็ฉันอย่างนี้" โยมก็ว่า "ฉันพริกฉันปลาร้าไม่ได้หรือ" "ถ้ามันมีก็ได้" ท่านอาจารย์ตอบ โอ้โฮ มันช่างเพราะเหลือเกินนะ ท่านเอาข้าวในบาตรนั้นมาจิ้มน้ำเปล่าอยู่นั่นแหละ นี่คือจะสอน เอากันถึงขนาดนั้น ทีนี้เขารู้แล้วก็ว่าโอ...เราบาปแล้วให้พระฉันข้าวกับน้ำเปล่าๆอยู่ถึง ๑๕ วัน แล้วนี่ความไม่รู้เรื่องเป็นอย่างนี้ คนที่ไม่รู้เรื่องมันสอนยากสอนลำบาก เมื่อหลวงพ่อป่าไปสอนที่เมืองนอก ครูบาอาจารย์ผู้สอนมานั้นลำบาก อย่างเช่นอาตมาออกไปเมืองนอก ซึ่งเขาไม่มีพระเหมือนบ้านเรา ก็เป็นเหตุให้มองเห็นพระพุทธเจ้าเสียแล้ว พอเราออกไปบิณฑบาต เขามองไม่เป็นพระเลยเขามองเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ คนที่จะคิดใส่บาตรสักคนหนึ่งก็ไม่มี มีแต่เขาพากันมองว่า ตัวอะไรน่ะมานั่น โอ้โฮ นึกถึงพระพุทธองค์ อาตมากราบท่านเลย มันแสนยากแสนลำบากที่จะฝึกคน เพราะเขาไม่เคยทำผู้คนที่ไม่เคยทำไม่รู้จักนี่มันลำบากมาก พอมานี่นึกถึงเมืองไทยเราออกจากป่าไปบิณฑบาตเท่านั้นแหละ ไม่อดแล้ว ไปที่ไหนมันก็สบายมาก บิณฑบาตเอาคน อย่าเอาอาหาร แต่เมื่อเราไปเมืองนอกอย่างนั้น มองๆดูไม่มีใครตั้งใจมาตักบาตรพระ บาตรเขายังไม่รู้จักเลย เราสะพายบาตรไป เขานึกว่าเป็นเครื่องดนตรีเสียอีก ถึงอย่างนั้นอาตมาก็ยังดีใจในสิ่งที่ได้ทำมาแล้ว โดยมากพระท่านไปเมืองนอก ท่านไม่บิณฑบาตหรอก อาตมามองเห็นข้อนี้นึกถึงพระพุทธเจ้า อาตมาต้องบิณฑบาต ใครจะห้ามก็จะบิณฑบาต ไปบิณฑบาต ไปทำกิจอันนี้ที่กรุงลอนดอนได้ ดีใจเหลือเกิน พวกพระไปด้วยกันก็ว่าบิณฑบาตทำไม มันไม่ได้อาหาร"อย่าเอาอาหารซิ ไปบิณฑบาตเอาคน เอาคนเสียก่อน ขนมมันมากับคน" ให้อายเฉพาะในสิ่งที่เป็นบาป พระก็ไปบิณฑบาตให้เขามองดู เขามองดูพระนั่นก็ถือว่าได้แล้วก็เหมือนท่านพระสารีบุตรนั่น ท่านไปบิณฑบาตอุ้มบาตรอยู่ในบ้านตั้งหลายครั้ง เขาก็ไม่ใส่บาตรสักขันเลย เขามองดูแล้วเขาก็เดินหนี มาถึงวันหนึ่งเขาก็ว่า "พระสมณะนี่มาอย่างไร ไป หนีไป "พระสารีบุตรท่านก็ดีใจแล้ว ได้บิณฑบาตแล้ววันนี้ เพราะเขาสนใจเขาจึงไล่เรา ถ้าเขาไม่สนใจเขาไม่ไล่หรอก เขาไม่พูดกับเราหรอก พระสารีบุตรท่านเป็นผู้มีปัญญา เท่านั้นท่านก็พอใจแล้ว คนสนใจ นี่เป็นจิตของพระที่ท่านไปประกาศพระศาสนา อาตมามานึกถึงข้อนี้แล้วก็ไม่อาย เพราะพระพุทธเจ้าของเราท่านตรัสว่า "ให้อายแต่สิ่งที่มันเป็นบาป ไม่เป็นบาปไม่ต้องอาย" ก็เลยออกไปบิณฑบาตได้สัก ๗ วัน ตำรวจก็จ้องสะกดรอยตามมาห้าม ให้หยุดบิณฑบาต บอกว่าผิดกฎหมายในเมืองเขา เราไม่รู้นี่มันผิด เราก็หยุด ที่ผิดเพราะเขาหาว่าเป็นขอทาน บ้านเขาห้ามขอทาน เราก็บอกว่า อันนั้นมันเป็นเรื่องของคน แต่นี่มันเรื่องของศาสนา พระพุทธศาสนาไม่ใช่ขอทาน ก็เลยได้อธิบายไปว่า ขอทานประการหนึ่ง การบิณฑบาตอีกอย่างหนึ่งก็เลยเข้าใจกัน ทุกวันนี้ที่นั่นพระก็ได้บิณฑบาตอยู่ แต่ก็ยังไม่ดีเท่าไรหรอก ค่อยๆเริ่มไปล่ะนี่เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ทำได้ลำบาก ขอให้ปฏิบัติธรรมตลอดชีวิต จิตใจของเรานี้ก็เหมือนกัน อย่างเราชาวพุทธที่มาฟังธรรมะกันทุกวันพระนี่ บางคนก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องธรรมะแท้ๆ อย่างเมื่อสองสามวันมานั้น พวกโยมจากสาขามารวมกันเป็นร้อยๆ ทีนี้อาตมาก็เลยถามว่า "โยม ปีนี้เท่าที่ตรวจดูนะ อาตมาสอนมานี่ก็เกือบสามสิบปีแล้ว ปล่อยไปตามใจสบายๆ วันนี้ก็เลยอยากถามว่า พวกเราอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายนั้น มีบ้างไหมในที่นี้ ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติ ปฏิบัติไม่มากหรอก มีศีล ๕ ตลอดชีวิตมีบ้างไหม

Comment