เช้าวันใหม่ที่สดใส แสงแดดอ่อนๆ
ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในบ้านเช่าหลังเล็กๆ
ที่ตั้งอยู่ท้ายตลาดแห่งหนึ่งในอำเภอเล็กๆ
ของจังหวัดนครราชสีมา
เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว
สายลมเย็นๆพัดผ่าน
ทำให้บรรยากาศยามเช้าสดชื่นและมีชีวิตชีวา
สุวิทย์
ชายหนุ่มวัย28ปี
กำลังอุ้มลูกสาวคนเดียวของเขา
น้องน้ำเด็กหญิงวัย 6 ขวบ
ที่มีหน้าตาน่ารักและร่าเริง
ทั้งสองเดินออกมาที่ลานหน้าบ้าน
ซึ่งจอดรถกระบะคันใหม่ของเขาไว้
น้ำจ๋าดูสิ
รถกระบะของเราสวยไหม
สุวิทย์ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
เขายืนมองรถกระบะมือสองที่เพิ่งซื้อมาใหม่
สีขาวสะอาด สภาพดี
แม้จะเป็นรถมือสอง
แต่ก็เหมือนใหม่มาก
น้องน้ำยิ้มกว้าง
ดวงตาเป็นประกาย
สวยมากเลยค่ะปะป๊า
ปะป๊าจะพาหนูไปเที่ยวทะเลใช่ไหมคะ
สุวิทย์หัวเราะเบาๆ
ใช่แล้วจ้ะ
แต่ต้องให้พ่อหาตังค์เยอะๆก่อนนะ
เดี๋ยวพ่อจะพาไปเที่ยวทะเลที่สวยที่สุดเลย
เย้
หนูรอได้นะคะปะป๊า
หนูอยากเล่นน้ำทะเลแล้ว
น้องน้ำตบมือด้วยความดีใจ
กระโดดโลดเต้นไปรอบๆรถกระบะ
สุวิทย์มองดูลูกสาวด้วยความรักและอบอุ่น
ในใจรู้สึกมีความหวังและกำลังใจมากขึ้น
หลังจากที่ชีวิตผ่านความยากลำบากมานาน
สองปีที่แล้ว
ภรรยาของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถโดยสาร
ที่ทางข้ามที่ไม่มีรั้วกั้น
เหตุการณ์นั้นทำให้โลกของเขาพังทลาย
แต่เขาก็ต้องเข้มแข็งเพื่อเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวของเขา
น้ำจ๋า
ไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า
เดี๋ยวปะป๊าจะพาไปส่งโรงเรียนนะ
สุวิทย์บอก
ค่ะปะป๊า
หนูหิวแล้วด้วย
น้องน้ำจับมือพ่อและเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยกัน
เย็นวันนั้น
หลังจากที่ส่งน้องน้ำเข้านอน
สุวิทย์นั่งลงที่โต๊ะทำงานเล็กๆในห้องนั่งเล่น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เพื่อจะโทรหาลุงสมปอง
เจ้าของรถกระบะคนเก่า
เขาต้องการแจ้งว่าพรุ่งนี้จะนำเงินงวดสุดท้ายไปจ่าย
เอ.
ทำไมโทรไม่ติดนะ
สุวิทย์พูดกับตัวเอง
หลังจากที่พยายามโทรหลายครั้ง
แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
ลุงสมปอง
ชายวัย 55 ปี
เป็นพนักงานการไฟฟ้าในตัวจังหวัด
รถกระบะคันนี้ลุงสมปองขายให้เขาในราคาพิเศษ 150,000 บาท
โดยแบ่งจ่ายเป็น3งวด
และลุงสมปองก็โอนรถให้ก่อนด้วยความเห็นใจ
เพราะลุงสมปองเองก็เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเช่นกัน
"สงสัยลุงแกจะยุ่ง
เดี๋ยวฝากข้อความไปทางแชทดีกว่า
สุวิทย์ตัดสินใจ
ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไปหาลุงสมปอง
แจ้งว่าจะนำเงินงวดสุดท้ายไปจ่ายในวันพรุ่งนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น
เวลา2:00น.
สุวิทย์ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก
เขาล้างหน้าแปรงฟัน
เตรียมตัวออกไปทำงานที่ตลาด
เขาได้รับงานขนส่งปลาให้กับเสี่ยเจ้าของร้านขายปลา
ต้องขนปลาสดไปส่งตามร้านต่างๆในตัวเมือง
วันนี้ต้องรีบหน่อย
จะได้กลับมาส่งน้องน้ำไปโรงเรียนทันเวลา
เขาพูดกับตัวเอง
ขณะที่สตาร์ทรถกระบะและขับออกไปในความมืดของยามเช้า
เวลาผ่านไปจนถึง 8:30 น.
สุวิทย์กลับมาถึงบ้านพร้อมกับถุงโจ๊กอุ่นๆ
สำหรับน้องน้ำแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป
เขาเห็นน้องน้ำตื่นแล้ว
กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่ในห้องนั่งเล่น
อ้าว
น้ำตื่นแล้วเหรอลูก
ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง
สุวิทย์ถามด้วยความแปลกใจ
น้องน้ำหันมายิ้มให้พ่อ
หนูรู้สึกเหมือนมีคนมาปลุกหนูเลยค่ะปะป๊า
แต่ไม่เห็นมีใคร
หนูอาจจะฝันก็ได้
หรือว่าเป็นนางฟ้ามาปลุกน้องน้ำกันนะ
สุวิทย์หยอกล้อ
อาจจะใช่ค่ะปะป๊า
น้องน้ำหัวเราะคิกคัก
เอ้า
ปะป๊าซื้อโจ๊กมาให้
กินข้าวเช้าก่อนนะ
จะได้มีแรงไปโรงเรียน
ค่ะปะป๊า
หนูไปหยิบจานกับช้อนก่อนนะคะ
น้องน้ำลุกขึ้นไปในครัวอย่างกระตือรือร้น
พ่อกินด้วยไหมคะ
เธอถามขณะที่กำลังจัดโต๊ะ
หนูกินเลยลูก
เดี๋ยวพ่อจะไปหาอะไรกินทีหลัง
ตอนนี้ต้องรีบไปส่งหนูที่โรงเรียนก่อน
ได้ค่ะปะป๊า
น้องน้ำนั่งลงและเริ่มทานโจ๊กอย่างอร่อย
โรงเรียนของน้องน้ำเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของรัฐบาล
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน
สุวิทย์ขับรถกระบะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน
ขณะที่จอดรถที่หน้าโรงเรียน
เขาสังเกตเห็นคุณครูสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู
สวัสดีค่ะคุณพ่อ
คุณครูทักทาย
แต่สายตาของเธอดูแปลกๆ
เธอมองไปที่รถกระบะของเขา
สวัสดีครับคุณครู
สุวิทย์ตอบ ยิ้มแย้ม
สวัสดีค่ะคุณครู
น้องน้ำยกมือไหว้ด้วยความน่ารัก
เก่งมากเลยจ้ะน้องน้ำ
เข้าไปในโรงเรียนกันเถอะ
คุณครูจับมือน้องน้ำ
แต่สายตาของเธอยังคงมองไปที่กระบะหลัง
ของรถสุวิทย์
สุวิทย์รู้สึกแปลกใจ
คุณครูมองอะไรนะ
หรือว่ารถของเรามีอะไรผิดปกติ