MENU

Fun & Interesting

โอปนายิโก—น้อมเข้ามาสู่ตน จุดเริ่มต้นแห่งปัญญา : หลวงปู่นิภา นิภาธโร

Video Not Working? Fix It Now

เจริญในธรรม ท่านผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย การทำให้บุคคลเจริญได้นั้นอยู่ที่การฝึกฝน การปฏิบัติ และการพิจารณาธรรมอยู่เสมอ พระบรมศาสดาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอยู่ร่วมกับมหาชน สนทนาและสั่งสอนมหาชน แต่เมื่อมีข้อสงสัยหรือความใคร่รู้ใด ๆ พระองค์ก็น้อมเข้ามาสู่ตน (โอปนายิโก) พิจารณาด้วยปัญญา จนบรรลุอนุตตรสัมโพธิญาณ และได้ประกาศพระธรรมเพื่อให้วิญญูชนทั้งหลายได้ตื่นรู้ ผู้ที่ฟังธรรมและบรรลุฉับพลันได้นั้น เพราะเขาได้ฟังและน้อมนำธรรมเข้าสู่จิตใจของตนเอง เกิดสัมมาทิฏฐิ เห็นแจ้งในสัจธรรม เราจึงเห็นได้ว่า พระสาวกทั้งหลาย แม้มีปัญญาเลิศหรือความสามารถเฉพาะทาง ก็ต้องพิจารณาและเข้าใจธรรมในตนเอง จึงเกิดพลังแห่งปัญญา ความผิดพลาดของอหิงสกะและการกลับใจ องคุลิมาล เดิมทีเป็นผู้มีเมตตา มีใจเกื้อกูลต่อสัตว์ทั้งหลาย แต่เพราะวิบากกรรม และการคบหามิตรชั่ว ถูกครูผู้มีจิตริษยาใช้เป็นเครื่องมือ จึงถูกชักนำให้กระทำกรรมอันโหดร้ายเพื่อเรียนวิชา ต้องฆ่าคนถึงพันคนเป็นค่าตอบแทน เช่นเดียวกับปัจจุบัน คนจำนวนมากยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะโกง หลอกลวง หรือทำร้ายผู้อื่น แม้แต่มหาวิทยาลัยบางแห่ง ค่าเทอมแพงแค่ไหน คนก็ยอมจ่ายเพื่อให้ได้ชื่อเสียงและเกียรติยศ เช่นเดียวกัน อหิงสกะก็ยอมก้าวข้ามศีลธรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ เมื่อเขาฆ่าคนได้ 999 คน เหลืออีกเพียงหนึ่งคนจึงจะครบพัน แม่ของเขาด้วยความรักและห่วงใยออกตามหาลูก บังเอิญกลายเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของเขา หากเขาฆ่าแม่ กรรมนี้จะเป็นอนันตริยกรรมที่ไม่อาจแก้ไขได้ พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุการณ์นี้ จึงเสด็จไปโปรด เมื่ออหิงสกะไล่ตามพระองค์ พระองค์ทรงกล่าวว่า “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” คำนี้กระทบจิตของอหิงสกะอย่างแรง เขาเริ่มพิจารณาและย้อนดูตนเอง เห็นว่าตนหลงผิดมาช้านาน จิตเมตตาที่เคยมีอยู่เดิมกลับมาเชื่อมโยงกับธรรมของพระพุทธเจ้า นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเปลี่ยนแปลงจากจิตที่หยาบสู่จิตที่ละเอียด เมื่ออหิงสกะได้ฟังธรรม จิตของเขาเกิดความสงบ ความเห็นผิดทั้งหลายมลายสิ้น เปลี่ยนจากฆาตกรกลายเป็นพระอรหันต์ การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นจาก โอปนายิโก—การน้อมเข้ามาสู่ตน พิจารณาจิตของตนเอง และเห็นแจ้งในความจริง มหาชนที่เคยหวาดกลัวและโกรธแค้น ยังคงตามมาเพื่อทำร้ายเขา แต่พระพุทธองค์ตรัสเตือนว่า “ถ้าอหิงสกะยังเป็นคนเดิม ป่านนี้พวกท่านคงไม่รอดชีวิตมาแล้ว” คำพูดนี้ทำให้มหาชนเกิดสติ เห็นความจริงว่า การเปลี่ยนแปลงของอหิงสกะนั้นเป็นของแท้ เพราะผู้ที่มีเมตตาแท้จริง ย่อมไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง สัจธรรมแห่งการพิจารณาตน ชีวิตของพวกเราทุกคน เมื่อผ่านกาลเวลามากขึ้น ความเป็น “เรา” ที่เคยยึดมั่นก็เริ่มเลือนหาย ตอนเด็กเราสั่งร่างกายให้ทำอะไรก็ทำได้ง่าย แต่เมื่อแก่ตัวลง ร่างกายไม่เชื่อฟังเราอีกต่อไป จนถึงวันที่วิญญาณจากไป สังขารนี้ก็เหลือเพียงท่อนไม้ หาความเป็นเราไม่ได้เลย เมื่อพระพุทธเจ้าไปโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชาทรงประชวรหนัก ไม่อยากฟังธรรม ไม่อยากทำอะไรเลย พระพุทธองค์ตรัสว่า “หากร่างกายนี้เป็นของเสด็จพ่อจริง ก็ขอให้เสด็จพ่อทรงลุกขึ้นเถิด” พระราชาได้สดับและตระหนักว่า ร่างกายนี้มิใช่ของตนเองแล้ว จึงยอมรับสัจธรรม และบรรลุธรรมในที่สุด สติ—กุญแจสู่ความหลุดพ้น วันเวลาผ่านไป ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง คำถามคือ เรากำลังทำอะไรอยู่? เรากำลังเดินไปสู่ปัญญาหรือเดินไปสู่ความทุกข์? “โอปนายิโก” น้อมเข้ามาดูที่จิตของตนเองเถิด พิจารณาให้เห็นความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่มีอยู่กับทุกชีวิต การแก้ไขปัญหาที่แท้จริงต้องเริ่มจากจิตใจของเราเอง ไม่ใช่จากสิ่งภายนอก ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม มีสติ และเข้าถึงปัญญาแท้จริง ด้วยการปฏิบัติตามหนทางแห่งธรรม

Comment