MENU

Fun & Interesting

ขี้ขโมย โจรในชุมชน #กรรมตามสนอง #เรื่องสั้นสอนใจ

เล่าเรื่อง กรรม 574 lượt xem 14 hours ago
Video Not Working? Fix It Now

ช่อง"เล่าเรื่อง กรรม "
ได้รวมช่อง 2 ช่องคือ
🥰หลอนหลังไมค์
🥰เล่าเรื่องกรรม
ของพี่บุ้งรวมไว้ให้ทั้ง2ช่องในลิ้งนี้แล้วค่ะ👇
เป็นเพื่อนสามารถฟังยาวๆก่อนนอนได้เลยจ้า..🥰
https://youtube.com/playlist?list=PLi_reL06tAz62zIksRaujJECnuLOHGWSZ&si=SogpZ3WagTwAnfnG
🙏🙏🙏
ตอนที่ 1: เด็กสลัมขี้ขโมย

ในตรอกแคบ ๆ ของชุมชนแออัดกลางกรุงเทพฯ บ้านเรือนตั้งเบียดเสียดกันไปมา สายไฟโยงพันกันยุ่งเหยิง ตึกแถวเก่า ๆ ดูโทรมเพราะกาลเวลาทำร้ายมันมาหลายสิบปี ชาวบ้านส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ บ้างเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ หน้าบ้าน บ้างทำงานรับจ้างไปวัน ๆ ท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านี้ มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กลายเป็นตัวปัญหาของชุมชน พวกมันไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตไปวัน ๆ กับเหล้า บุหรี่ และเรื่องผิดกฎหมาย

แก๊งสามโจรตู้หยอดเหรียญ ประกอบไปด้วย บอล, ตั้ม, และไอ้หมอก ทั้งสามคนอายุประมาณ 20 ปี ไม่มีงานประจำ อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดมาตั้งแต่เด็ก บอลเป็นหัวโจกของกลุ่ม มีนิสัยเจ้าเล่ห์ รู้วิธีงัดตู้หยอดเหรียญโดยไม่ให้เกิดเสียงดัง ตั้มเป็นคนใจร้อน ชอบใช้กำลัง ส่วนไอ้หมอกเป็นพวกสมองทึบ ตามเพื่อนไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดอะไร


---

พฤติกรรมที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

1. ลักขโมยเหรียญจากตู้ซักผ้า

ช่วงหลังมานี้ เจ้าของตึกหลายคนเริ่มนำตู้หยอดเหรียญซักผ้ามาตั้งไว้หน้าบ้าน เพราะมันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเฝ้า แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือมันกลายเป็นเป้าหมายของแก๊งวัยรุ่นขี้ขโมย บอลรู้เทคนิคเปิดตู้ได้โดยใช้ลวดเส้นเล็ก ๆ สอดเข้าไปในช่องรับเหรียญ ตั้มคอยดูต้นทาง ส่วนไอ้หมอกช่วยกวาดเหรียญใส่กระเป๋า ขโมยทีหนึ่งได้เป็นร้อย บางครั้งพวกมันใช้คีมตัดแม่กุญแจ งัดกันหน้าตาเฉยกลางดึก แล้วเอาเงินไปซื้อเหล้ากินกันที่ใต้สะพานลอย

เจ้าของตู้ซักผ้าเริ่มเดือดร้อน บางคนต้องเปลี่ยนกุญแจใหม่ทุกอาทิตย์ บางคนถึงกับติดกล้องวงจรปิด แต่พวกมันก็รู้มุมกล้อง แอบหลบได้เสมอ


---

2. กินเหล้า-ส่งเสียงดังยามค่ำคืน

ทุกคืนหลังจากได้เงินจากตู้หยอดเหรียญ แก๊งนี้จะเอาเงินไปซื้อเหล้าขาวมานั่งกินกันตามซอกตึกหรือใต้สะพาน ส่งเสียงดัง เถียงกันเรื่องไร้สาระ บางคืนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเอง บางคืนก็ไล่แกล้งเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ ที่เดินผ่านมา ชาวบ้านที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานพากันเอือมระอา เพราะไม่มีใครกล้าห้าม พวกมันเป็นพวกก้าวร้าว ถ้าใครพูดมากก็อาจโดนลูกหลง


---

3. ขโมยเสื้อผ้า-ของใช้จากตู้ซักผ้า

นอกจากขโมยเหรียญแล้ว บางครั้งพวกมันยังแอบเปิดฝาตู้ซักผ้าแล้วขโมยเสื้อผ้าของคนอื่น โดยเฉพาะเสื้อผ้ายี่ห้อดี ๆ รองเท้าผ้าใบ พวกมันเอาไปใส่เองบ้าง หรือเอาไปขายให้พ่อค้าของมือสองในตลาดนัด ราคาถูกแค่ไหนก็ขาย ขอแค่ได้เงินไปซื้อเหล้า

มีครั้งหนึ่ง น้าสมศรี ซึ่งเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ถูกขโมยเสื้อยูนิฟอร์มที่ต้องใส่ไปทำงาน น้าสมศรีโวยวายด่ากลางตลาด แต่ไม่มีใครช่วยได้ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีใครกล้าชี้ตัว พวกมันก็ยังลอยนวลต่อไป


---

4. ทำร้ายแมวจรจัด-ปาขวดใส่บ้านคนอื่น

เวลาว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ บอลกับตั้มชอบเล่นสนุกด้วยการแกล้งแมวจรจัดที่เดินอยู่ตามซอกซอย มันปาก้อนหินใส่ บางทีก็ไล่เตะ ไอ้หมอกถึงจะไม่ทำเอง แต่ก็นั่งหัวเราะชอบใจ บางคืนเวลามันเมา มันปาขวดเหล้าลงจากสะพานใส่หลังคาบ้านคนอื่น ทำให้กระเบื้องแตก ชาวบ้านโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะพวกมันรวมหัวกันแน่น ไม่เคยรับผิดชอบ


---

“ถ้าพวกมันยังเป็นแบบนี้ต่อไป สักวันจะต้องเจอดีแน่ ๆ”
เสียงลือเสียงเล่าอ้างของชาวบ้านเริ่มดังขึ้น หลายคนเริ่มคิดหาทางจัดการกับพวกมัน เพราะอดทนมานานแล้ว

แต่พวกมันไม่รู้เลยว่า… คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่มันจะได้ขโมยเงินจากตู้ซักผ้า

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ตอนที่ 1: เด็กสลัมขี้ขโมย

ในตรอกแคบ ๆ ของชุมชนแออัดกลางกรุงเทพฯ บ้านเรือนตั้งเบียดเสียดกันไปมา สายไฟโยงพันกันยุ่งเหยิง ตึกแถวเก่า ๆ ดูโทรมเพราะกาลเวลาทำร้ายมันมาหลายสิบปี ชาวบ้านส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ บ้างเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ หน้าบ้าน บ้างทำงานรับจ้างไปวัน ๆ ท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านี้ มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กลายเป็นตัวปัญหาของชุมชน พวกมันไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตไปวัน ๆ กับเหล้า บุหรี่ และเรื่องผิดกฎหมาย

แก๊งสามโจรตู้หยอดเหรียญ ประกอบไปด้วย บอล, ตั้ม, และไอ้หมอก ทั้งสามคนอายุประมาณ 20 ปี ไม่มีงานประจำ อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดมาตั้งแต่เด็ก บอลเป็นหัวโจกของกลุ่ม มีนิสัยเจ้าเล่ห์ รู้วิธีงัดตู้หยอดเหรียญโดยไม่ให้เกิดเสียงดัง ตั้มเป็นคนใจร้อน ชอบใช้กำลัง ส่วนไอ้หมอกเป็นพวกสมองทึบ ตามเพื่อนไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดอะไร


---

พฤติกรรมที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

1. ลักขโมยเหรียญจากตู้ซักผ้า

ช่วงหลังมานี้ เจ้าของตึกหลายคนเริ่มนำตู้หยอดเหรียญซักผ้ามาตั้งไว้หน้าบ้าน เพราะมันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเฝ้า แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือมันกลายเป็นเป้าหมายของแก๊งวัยรุ่นขี้ขโมย บอลรู้เทคนิคเปิดตู้ได้โดยใช้ลวดเส้นเล็ก ๆ สอดเข้าไปในช่องรับเหรียญ ตั้มคอยดูต้นทาง ส่วนไอ้หมอกช่วยกวาดเหรียญใส่กระเป๋า ขโมยทีหนึ่งได้เป็นร้อย บางครั้งพวกมันใช้คีมตัดแม่กุญแจ งัดกันหน้าตาเฉยกลางดึก แล้วเอาเงินไปซื้อเหล้ากินกันที่ใต้สะพานลอย

เจ้าของตู้ซักผ้าเริ่มเดือดร้อน บางคนต้องเปลี่ยนกุญแจใหม่ทุกอาทิตย์ บางคนถึงกับติดกล้องวงจรปิด แต่พวกมันก็รู้มุมกล้อง แอบหลบได้เสมอ


---

2. กินเหล้า-ส่งเสียงดังยามค่ำคืน

ทุกคืนหลังจากได้เงินจากตู้หยอดเหรียญ แก๊งนี้จะเอาเงินไปซื้อเหล้าขาวมานั่งกินกันตามซอกตึกหรือใต้สะพาน ส่งเสียงดัง เถียงกันเรื่องไร้สาระ บางคืนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเอง บางคืนก็ไล่แกล้งเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ ที่เดินผ่านมา ชาวบ้านที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานพากันเอือมระอา เพราะไม่มีใครกล้าห้าม พวกมันเป็นพวกก้าวร้าว ถ้าใครพูดมากก็อาจโดนลูกหลง


---

3. ขโมยเสื้อผ้า-ของใช้จากตู้ซักผ้า

นอกจากขโมยเหรียญแล้ว บางครั้งพวกมันยังแอบเปิดฝาตู้ซักผ้าแล้วขโมยเสื้อผ้าของคนอื่น โดยเฉพาะเสื้อผ้ายี่ห้อดี ๆ รองเท้าผ้าใบ พวกมันเอาไปใส่เองบ้าง

Comment