ความเดิมตอนที่แล้ว
ดังนั้น…
หากมู่เสี่ยวเสี่ยวต้องการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง
เธอมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น
หนึ่ง คือสืบทอดมู่กรุ๊ป อีกทางคือแต่งงาน
แต่ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงยุคใหม่ มู่เสี่ยวเสี่ยวไม่มีทางยอมฝากอนาคตของตัวเองไว้กับผู้ชายที่เธอไม่รู้จักแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่เคยคิดพึ่งพาผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น…
เธอมีเพียงทางเดียวเท่านั้น คือ สร้างเส้นทางของตัวเอง และปกป้องสิ่งที่เป็นของตัวเองให้ได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น มู่เสี่ยวเสี่ยวก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มให้คุณย่ามู่
“ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้ หนูคงจะมีน้องชายแล้วสินะ?”
พอคิดถึงหลานชายตัวน้อยที่ยังไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คุณย่ามู่ก็ยิ้มกว้างจนแทบหุบปากไม่ลง
พอแก่ตัวลง… คนเราก็ไม่ได้อยากได้อะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว
แค่อยากเห็นลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
มู่ไป่หยู่เสริมขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนอยู่แล้ว แม่ดูสิ เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนยังสาวอยู่เลย ให้เธอมีลูกหลาย ๆ คนไปเลย! ตระกูลมู่ของเราน่ะ ไม่ได้มีงานมงคลมานานมากแล้วนะ”
คุณย่ามู่พยักหน้าเห็นด้วย คิดว่าลูกสาวพูดมีเหตุผลจริง ๆ
— ภายในคอนโด —
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนยื่นแก้วน้ำให้มู่ไป่เฉิง
“พี่ไป่เฉิง อย่าดื่มเหล้าเลยค่ะ ดื่มน้ำหน่อยนะคะ”
มู่ไป่เฉิงเมาหนักจนแทบไม่รู้สึกตัว ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขารู้สึกคอแห้งผาก
น้ำที่เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนยื่นมาให้ในตอนนี้ ราวกับเป็นยาวิเศษ เขารับแก้วน้ำมากระดกดื่มจนหมดในพริบตา
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนมองดูแก้วเปล่าในมือ แววตาเป็นประกายวาบขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบาง ๆ
เธอเข้าไปประคองมู่ไป่เฉิงขึ้นจากโซฟา
“พี่ไป่เฉิง เดี๋ยวหนูพาไปพักที่เตียงนะคะ”
มู่ไป่เฉิงเดินเซไปเซมา ทุกก้าวที่เดินเหมือนเหยียบอยู่บนก้อนสำลี
รู้สึกเบาหวิว ล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ…
“ร้อน… ร้อนจังเลย!”
มู่ไป่เฉิงยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อตัวเองเล็กน้อย รู้สึกเหมือนมีแมลงนับไม่ถ้วนไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในร่างกาย ร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนเงยหน้ามองเขา ก่อนยิ้มบาง ๆ
“นอนพักสักหน่อย เดี๋ยวก็หายค่ะ”
เธอพยุงเขาไปที่เตียงในห้องนอน
เมื่อพาเขานอนลงได้แล้ว เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนก็พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน
“พี่ไป่เฉิง พี่พักเถอะนะคะ หนูขอไปจัดห้องนั่งเล่นก่อน”
มู่ไป่เฉิงนอนอยู่บนเตียง รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนช้า ๆ ภาพตรงหน้าเริ่มบิดเบี้ยว
ในความเลือนรางนั้น… เขาเห็นใบหน้าของ หลินกุ้ยเซียง กำลังยิ้มให้เขา
รอยยิ้มของเธอสวยงามเหลือเกิน…
ราวกับสายลมเย็นฉ่ำในวันหน้าร้อน ที่สามารถปลอบประโลมหัวใจคนได้
“อย่าไป…”
มู่ไป่เฉิงคว้ามือของเจิ้งเนี่ยนเนี่ยนเอาไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ร้องไห้พลางพูดพึมพำ
“อาเซียง… อย่าทิ้งฉันไปเลย… ให้อภัยฉันเถอะนะ…”
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมู่ไป่เฉิงจับมือเธอไว้แน่น
แม้ปากของเขาจะเรียกชื่อผู้หญิงคนอื่น… แต่ในใจเธอกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ได้ค่ะ ฉันไม่ไปไหน”
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนหยุดเดิน ยืนนิ่งมองเขาอยู่ตรงนั้น
“พี่ไป่เฉิง ฉันจะอยู่ข้างพี่ตลอดไป”
“จริงเหรอ? จริง ๆ นะ?”
มู่ไป่เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง
“จริงสิคะ”
เจิ้งเนี่ยนเนี่ยนยิ้มบาง ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“พี่ไป่เฉิง ฉันรักพี่นะคะ ฉันอยากอยู่กับพี่”
พูดจบ เธอก็ก้มลงไปจูบเขาอย่างอ่อนหวาน
ในวินาทีนั้น…
เธอคิดเพียงอย่างเดียว
เธออยากได้มู่ไป่เฉิง เธออยากอยู่กับเขา ไม่ว่าอดีตของเขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่อนาคตมีเธออยู่ด้วยก็พอ
ดังนั้น… เธอไม่เสียใจเลย