พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระอริยมหาราชเจ้ากวนอู
ตอน "ปลุกชาวโลกผู้ลุ่มหลง ตอนที่ 3" ทีมกาลัญญุตา JK A&P
ข้า ฯ ท้าวสักกะ รุ่นที่ 18 ได้รับพระบัญชาประกาศิต จากพระอนุตตรธรรมเจ้า ลงสู่โลกา ตรวจสอบ ตักเตือน ปลุกสติ ผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาว ดังนี้
ข้าขอเตือน วันยุคท้ายปลายกัปป์ ที่เต็มไปด้วยมหันตภัยนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมาร กรีธาทัพ เคลื่อนขยับออกพร้อมกัน ทั่วธรณีสนั่นหวั่นไหว ทั่วสายน้ำกระเพื่อมถาโถม และซัดสาด จนเป็นแผ่นดินไหว อุทกภัยและสึนามิ ตามด้วยภัยร้ายจากพลังนิวเคลียร์ ที่เก็บซุกซ่อนไว้ทั่วโลก อัคคีภัย และวาตภัยแห่งความตาย ไม่มีใครหยุดยั้งมันไว้ได้ เป็นการกวาดล้างขยะโลกครั้งใหญ่ หากผู้บำเพ็ญธรรมต้องตายในภัยพิบัติ ก็ไม่ต้องตกใจกลัว ถ้าจิตเที่ยงตรงต่อฟ้า วิญญาณย่อมได้รับการช่วยเหลือ ให้รอดจากวัฏฏะสงสารได้
ต่อจากนั้น ท้องฟ้านิ่งเงียบ สงบ สงัดยิ่ง แต่แสงสว่างเจิดจ้าจนชาวโลก เริ่มอุ่นใจ ฉับพลันนั้น ฟ้าก็มืดดับ ไม่มีใครช่วยใครได้ มีแต่ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น โกลาหล อลหม่าน มารทั้งภายนอกและภายใน สับสนจนยากจะแยกแยะ และรับมือ มารภายนอกไม่มีใครหยุดยั้งได้ แต่มารภายในใจ ตนต้องใช้สติตัดเอง เมื่อสลัดออกได้อย่าหวนถลำคืน จงยึดสัจธรรมเป็นเข็มทิศ ใช้สติ สงบ เป็นดาบปัญญา รับมือเผชิญทุกสถานการณ์ ด้วยใจที่ราบเรียบเป็นปกติ ต่อให้ใกล้ถึงลมหายใจสุดท้าย ก็ให้ประคับประคองสติอย่างมั่นคง กำหนดจิตไว้ที่ด่านญาณใน ผันธรรมจักร ด้วยสติสัมปชัญญะ จนวินาทีสุดท้าย จิตวิญญาณย่อมเคลื่อนออกทางประตูญาณทวารได้เอง ตามธรรมชาติ
สัญญาณ คำเตือนต่างๆ จากฟ้า ที่ส่งมาเป็นระยะๆ ชาวโลกก็ยังมิได้ตระหนัก มิได้รู้ตื่นเลย ส่งทั้งสัญญาณของเหตุการณ์ ที่เคยเกิดมาก่อน และสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็ยังยากที่จะปลุกให้ชาวโลกตระหนกเกรงกลัวได้ โรคระบาดร้ายแรงแค่ไหน ก็ตระหนกไปชั่วขณะ ไม่นานก็กลับมาประมาทดังเดิม
(มิใช่เพื่อทำการค้าหรือหากำไร มิใช่เพื่อการกุศล โฆษณาที่เห็นเกิดขึ้นเอง มิได้นำมาเป็นรายได้ แต่เป็นเพียงเผยแผ่ธรรมะ เป็นทานเท่านั้น)