ร้านนวดเปิดในออสเตรเลียกว่า 6 ปี เจ๊ง! หมอนวดเจ้าของคนไทยสู้ชีวิตแบกเตียงนวดตามบ้าน จะรอดไหม EP.44

#ร้านนวด #ออสเตรเลีย #หมอนวด ร้านนวดเปิดในออสเตรเลียกว่า 6 ปี เจ๊ง! หมอนวดเจ้าของคนไทยสู้ชีวิตแบกเตียงนวดตามบ้าน จะรอดไหม EP.44 GUไปเรื่อยจะพาไปพบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยละทิ้งความฝันและสิ่งที่เขารัก จนวันหนึ่งธุรกิจนวดในออสเตรเลียที่เขาบ่มเพาะมานานได้ประสบความสำเร็จ แต่ด้วยความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ธุรกิจที่เขาสร้างมากับมือได้พังทลายลงเพราะพิษโควิด - 19 ทว่าด้วยหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ เขายังคงเดินหน้าต่อสู้ไปในเส้นทางและธุรกิจที่เขารัก เขาเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนจากร้านนวด เป็น Moblie Massage หรือว่านวดตามบ้าน ที่มีชื่อว่า สินไทย สินไทยมีความหมายว่ายังไง ความหมายคือ สินก็คือทรัพย์สิน ไทยก็คือของคนไทย ก็แปลว่าสินไทยเป็นทรัพย์สินของคนไทย มันก็จะสอดคล้องตอนผมเริ่มธุรกิจนวด เพราะว่าผมอยากให้ทักษะการนวดของผมให้คนต่างชาติได้รู้ว่านี่คือสมบัติของประเทศไทย คือความรู้คือทักษะ คือวัฒนธรรมของไทยเป็นของคนไทย วันนี้เราจะพาท่านไปพบกับสินไทยกับธุรกิจนวดตามบ้านในออสเตรเลีย ที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อยากรู้ว่าเป็นยังไง ก็ตามมาเด้ ผมนายอัมรินทร์ พลยุทธ หรือสินไทยนะครับ เจ้าของร้านนวดสินไทยที่ซิดนีย์ ร้านนวดของผมเปิดให้บริการนวดนักกีฬา นวดแก้อาการนวดจัดโครงสร้างกล้ามเนื้อ แล้วก็ฝังเข็ม cupping สำหรับลูกค้าที่มีอาการปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก เหตุผลที่เปิดร้านนวดเพราะตัวผมเองก็นวดแก้อาการมาตลอด และก็คิดว่าร้านนวดที่นวดแก้อาการจริง ๆ สายตรงจริง ๆ สายแข็งจริง ๆ มันยังไม่มี หรือมันมีแต่มันไม่ใช่แบบเรา บางทีคนไทยน่าจะมีตัวเลือกเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง นวดแก้อาการนวดที่ใช้คำว่าเจ็บแต่จบและอธิบายได้ สินไทยรีมีเดียลเป็นร้านนวดแก้อาการอยู่ที่ซิดนีย์นะครับ เปิดตั้งแต่ปี 2559 ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเน้นที่แก้อาการ รักษาอาการปวดเมื่อย เจ็บ อุบัติเหตุจากการทำงาน และการกีฬา ส่วนใหญ่เราจะโฟกัสปัญหาของลูกค้าเรื่องกล้ามเนื้อ ธุรกิจก็ไปได้สวยครับเดินมาได้ดีเรามีฐานลูกค้าที่มากขึ้น เราทำงานกับนักกีฬามวยไทยเป็นหลักและทีมวอลเล่ย์บอลบ้าง ทำให้เรามีจุดขายในด้านกีฬาและการซ่อมร่างกายชัดเจนกว่าที่อื่น ผมมีลูกค้าจากต่างรัฐบินมารักษาหรือว่ามานวดประจำจนทำให้เรามีร้านมีฐานลูกค้าที่แน่น และลูกค้าส่วนใหญ่เขาจะโฟกัสมาที่ร้านต้องการที่จะมานวดแก้อาการโดยตรง จนมาถึง 2562 ในปีที่ยุ่งที่สุดของเราก็เกิดปัญหาโควิดขึ้น ปัญหาโควิดที่เกิดขึ้นตอนแรกผมไม่ค่อยหวั่นเท่าไหร่นะ เพราะคิดว่ามันเป็นแค่ไวรัสจากจีน เพราะอ่านข่าวคร่าว ๆ มันเหมือนการปั่นของข่าวในโซเชียล แต่พอเวลาผ่านไปปัญหามันเริ่มหนักขึ้น ๆ จนรัฐบาลของออสเตรเลียได้ประกาศให้ธุรกิจหนึ่งในนั้นก็คือร้านนวดต้องหยุดทำการแล้วปิดร้านเนื่องจากร้านนวดเราต้องสัมผัสลูกค้า ผมก็เลยปิด เราก็ยังมีความหวังอยู่ว่า มันจะกลับมาปกตินะไวรัสมันจะไม่รุนแรง ปรากฎว่าเวลาผ่านไปข้อบังคับต่าง ๆ มันเริ่มมากขึ้น จนทำให้เราไม่สามารถคุยตกลงกับตึกที่เราเช่าอยู่ หรือว่าเราไม่สามารถที่จะหาลูกค้ามานวดได้ในช่วงเวลานั้นเนื่องจากล็อคดาวน์เลยไม่สามารถทำธุรกิจนวดได้เลย ร้านสินไทยก็ปิดไปโดยปริยาย ในส่วนหนึ่งคือนักเรียนที่มาเรียนหนังสือที่นี่แล้วใครทำธุรกิจทุกการช่วยเหลือมันจะมีเงื่อนไข แต่ปรากฎว่าร้านของผมเงื่อนไขไม่เพียงพอในการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ผมก็เลยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดทั้งนั้นแม้แต่ตึกที่เช่าอยู่ วันแรกที่ลงเฟสบุ๊คและประกาศบอกว่าลูกค้าทุกคนว่าร้านปิด ความรู้สึกที่กดโพสต์ปุ๊บเนี่ยเหมือนนักมวยเตะเข้ามาพร้อมกันเลยทีเดียว พอวันที่เราต้องปิดร้านเนี่ย ผมสองคนคือนั่งอยู่ในร้านของเราเองนี่แหละ ก็ไม่ได้พูดได้คุยกันเลย แต่เพียงแค่นั่งโต๊ะที่ลูกค้านั่งและก็นอนมันมืดแปดด้านไปหมดว่าเราจะทำยังไงกันต่อ เราจะเดินหรือว่าจะอยู่ใช้ชีวิตยังไงกันต่อในสถานการณ์ที่โรคระบาดมันร้ายแรงขนาดนี้ นสองคนแทบจะไม่คุยกันเลยเป็นวัน ๆ สองวัน ซึ่งเราพยายามใช้สมาธิให้มากที่สุด หยุดเงียบไม่คุยถึงปัญหาไม่ดราม่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับร้านหรือว่าเพราะว่าเราก็พยายามคิดในทางที่บวกว่า คนอื่นเขาก็ปิดเหมือนกัน อุปสรรคในการนวด Moblie Massage นวดตามบ้านอันดับแรกเลยลูกค้ากลัว บางทีคนแนะนำให้เป็นเพื่อนของเพื่อนแล้วพอเราไปเจอหน้าบ้านลูกค้ากลัว ผมเคยเจอเคสที่แบบหนักเลยคือยืนอยู่หน้าบ้านแล้วพร้อมสะพายกระเป๋าแต่ลูกค้าเดินมาบอกว่าขอยกเลิกได้ไหมอะไรอย่างนี้ แต่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายและตัวใหญ่อย่างนี้ ช่วงที่มาทำนวดตามบ้านคิดตลอดว่ามันจะรอดไหม ตอนแรกไม่มีใครรู้ว่าเรานวดตามบ้าน จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคนรู้ว่าเรานวดตามบ้าน เนื่องจากเราจะใช้คือเราจะนวดลูกค้าประจำที่เรานวดอยู่แล้วเสร็จแล้วลูกค้าก็จะแนะนำกันไป แล้วเวลาคนที่โทรมาจองกับเราหรือจะมานวดกับเรา เราจะถามเขาก่อนว่ามีใครแนะนำคุณมา แต่ถ้าไม่มีใครแนะนำมาเนี่ยเราก็จะพิจารณาอีกทีหนึ่ง คำถามนี้อีกแล้ว! คำถามนี้หรอ ถามว่าอายไหม แรก ๆ นะที่ผมไปเดินไทยทาวน์เจ้าของธุรกิจนวดร้านนั้นก็เปิด ร้านนี้ก็กลับมาเปิดตรงนั้นก็เปิด ตรงนี้ก็เปิด ทำไมเราสินไทยเราปิดอยู่คนเดียว ทำไมเราถึงปิดอยู่คนเดียว ทำไมเต้องมาแบกเตียง เดินก้มงก ๆ สะพายกระเป๋าแบกเตียงถือของเดินรอบไทยทาวน์ ขึ้นตึกนั้นทีลงตึกนั้นทีถามว่าอายไหมตอนแรกผมอายนะ ผมก็พยายามเดินก้มหน้า ผมลืมไปว่าผมก้มหน้าแต่เสื้อผมเขียนว่าสินไทย ผมก็อาย ผมก็อาย แต่พอผมเข้าไปเจอลูกค้าผมจริง ๆ ผมก็เลยบอกตัวเองว่า สินไทยถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ GUไปเรื่อย กดติดตาม (Subscribe) : https://www.youtube.com/channel/UCS5OG2XLh_9Y2oSsYzOLCsw?fbclid=IwAR3LAYtbv-3Zq3qAI-tbnxaAG8uvTfweiYX3iICYXnbCsxGWotzlloVPzS4 Facebook :https://www.facebook.com/jcAusLife/ ติดต่องาน ผ่านเพจ :https://www.facebook.com/jcAusLife/ ผ่านID Line : oa_davil