ปรีดี พนมยงค์ กับกรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8 ความมัวหมองในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ในคลิปวิดีโอ ดร.โภคิน พลกุล และ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต ได้อภิปรายเกี่ยวกับกรณีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถูกทำให้เป็นปริศนาและถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการใส่ร้ายปรีดี พนมยงค์ ผู้นำทางการเมืองและรัฐบุรุษอาวุโสของไทย
ข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือนและการใส่ร้ายปรีดี พนมยงค์
หลังการสวรรคตของรัชกาลที่ 8 มีการเผยแพร่ข่าวลือและสร้างกระแสกล่าวหาว่าปรีดี พนมยงค์มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งมีการส่งคนไปตะโกนในโรงภาพยนตร์ว่า “ปรีดีฆ่าในหลวง” เพื่อปลุกระดมและสร้างความเกลียดชังในสังคม
แต่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นว่า:
• ปรีดีไม่เคยตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีสวรรคต แต่ถูกใส่ร้ายภายหลังจากการรัฐประหาร พ.ศ. 2490
• การลี้ภัยของปรีดีไม่ได้เกิดจากการหนีคดี แต่เป็นเพราะถูกคุกคามจากคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490
• ปรีดีได้ฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทหลายกรณี ต่อผู้ที่กล่าวหาเขาอย่างไร้หลักฐาน และศาลได้ตัดสินให้เขาชนะคดีทุกคดี ซึ่งเป็นหลักฐานว่าการใส่ร้ายเขาเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง
• พระบรมวงศานุวงศ์ไม่ได้ติดใจสงสัยในตัวปรีดี ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท (พระเชษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ) ได้มีหนังสือถึงปรีดีแจ้งว่า ทั้งในหลวง (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระราชชนนีมิได้ทรงติดใจ ต่อข่าวลือที่ใส่ร้ายเขา
ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการยืนยันและถูกพูดถึงใน รายการ “หนี้แผ่นดิน” ตอน “ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส กับประชาธิปไตยไทย” เนื่องในวาระ ครบรอบ 100 ปีชาตกาลของปรีดี พนมยงค์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
รับชมคลิปรายการฉบับเต็มได้ที่นี่:
▶ https://youtu.be/QjR1eAVPKlU
สรุป
กรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8 เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการบั่นทอนชื่อเสียงของปรีดี พนมยงค์ แม้ว่าเขาจะไม่เคยเป็นผู้ต้องหา และมีหลักฐานทางกฎหมายยืนยันว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงการบิดเบือนประวัติศาสตร์และการใช้กระบวนการทางกฎหมายและสื่อในการทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งเป็น “ความมัวหมองในประวัติศาสตร์ชาติไทย” ที่ยังคงต้องได้รับการทบทวนและเผยแพร่ข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง