Airbus A380 ล้มยักษ์ขึ้นเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไร?
Airbus A380 คือเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เหมือนยักษ์บินได้ ซึ่งสามารถเอาชนะขีดจำกัดและความท้าทายมากมาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความความยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการบินบนท้องฟ้า คลิปนี้เรามาเจาะลึกเรื่องราวอันน่าทึ่งกันกว่า Airbus A380 สามารถโค่นแชมป์เก่าอย่าง Boeing 747 ขึ้นเป็นเจ้าเวหาได้อย่างไร
ติดตามต่อ👉 https://www.dedtongdon.com/airbus-a380
Time Stamp
0:00 Airbus A380 ล้มยักษ์เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
0:23 กำเนิด Airbus A380
3:07 Airbus A380 มีที่มาอย่างไร?
9:02 ยุคทอง Airbus A380
10:42 ปิดตำนาน Airbus A380
12:37 อนาคต Airbus
13:18 สรุป
กำเนิด Airbus A380
Airbus A380 เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2005 แล้วสร้างความตกตลึงให้กับโลกอย่างมาก ด้วยขนาดที่ใหญ่มหึมา เป็นแบบ 2 ชั้นทั้งลำ จุผู้โดยสารได้มากกว่า 555 คน ซึ่งต้องใช้เครื่องยนต์ Jet ถึง 4 เครื่อง กลายเป็นเครื่องบินโดยสารที่ล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดในโลก จนได้รับฉายาว่า Superjumbo
ถือได้ว่า Airbus A380 เป็นความมหัศจรรย์ด้านเทคโนโลยีการบิน กลายเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดโลก ที่สามารถโค่นแชมป์เก่าอย่าง Boeing 747 ลงได้สำเร็จ ด้วยความทันสมัยกว่า และหรูหรากว่า แถมมีราคาแพงกว่า Boeing 747-8 แค่ 10%
Airbus A380 มีที่มาอย่างไร
ปี 1990 ในยุคที่การเดินทางทางอากาศเติบโตอย่างมาก ซึ่งการบินระยะไกลยังมีแค่ Boeing 747 เป็นเจ้าตลาด แล้วได้เกิดจุดเปลี่ยนซึ่งสำคัญมากๆ ขึ้น เมื่อสองยักษ์ใหญ่ด้านการบินอย่าง Boeing และ Airbus มีความคิดเห็นในเรื่องอนาคตของการบินต่างกัน
Boeing
Boeing เชื่อว่า นักเดินทางอยากบินตรงไปยังปลายทางระยะไกลเพิ่มขึ้น ทำให้ Boeing เลือกที่จะพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อใช้รองรับเส้นทางบินระยะไกลแบบจุดต่อจุด Point to Point เช่น Boeing 777 และ Boeing 787 Dreamliner
Airbus
Airbus เชื่อว่า นักเดินทางอยากบินสะดวกสบายขึ้น ด้วยราคาที่ถูกลง ทำให้ Airbus เลือกที่จะพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่า Boeing 747 เพื่อจุผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น สำหรับเส้นทางบินแบบ Hub and Spoke ทำให้ Airbus ตั้งเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่จะพัฒนา A380 ให้กลายเป็นเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อโค่นแชมป์อย่าง Boeing 747 ลงให้ได้
จนในที่สุด Airbus A380 ถูกออกแบบให้มีห้องโดยสารเป็นแบบ 2 ชั้นทั้งลำ ทำให้มีขนาดใหญ่มหีมา ส่งผลกระทบให้ต้องพัฒนาเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกมากมายดังนี้
1 ระบบเครื่องยนต์ Jet ที่ต้องมีพละกำลังมหาศาล
2 ระบบควบคมการบิน
3 ระบบล้อและช่วงล่าง ที่ต้องแข็งแรงขึ้นอย่างมาก
4 ระบบการผลิต
Airbus A380 มีส่วนประกอบหลักๆ แยกกันผลิตอยู่ใน 5 ประเทศของยุโรปคือ เยอรมัน เวลส์ อังกฤษ สเป้น และฝรั่งเศษ
ยุคทอง Airbus A380
ปี 2005 Airbus A380 ได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความฮือฮาอย่างมากไปทั่วโลก ด้วยขนาดมหึมาใหญ่ที่สุดในโลก แถมยังทันสมัยและดูหรูหราสุดๆ เหมือนเป็นโรงแรมสุดหรูที่บินได้
จนทำให้หลายสายการบินเริ่มเลือกใช้ Airbus A380 แทน Boeing 747
โดยเริ่มต้นจาก Singapore Airlines เป็นสายการบินแรก ตามมาด้วย Emirates Qantas Lufthansa Korean Air และการบินไทยเราก็ซื้อกับเค้าด้วยถึง 6 ลำ เป็นสายการบินลำดับที่ 6 จากทั้งหมด 16 สายการบินทั่วโลก
ปิดตำนาน Airbus A380
แต่หลังจากที่ Airbus A380 ให้บริการได้ไม่นาน ความต้องการของผู้โดยสารก็เปลี่ยนไป แถมคู่แข่งอย่าง Boeing ก็ยังออกเครื่องบินรุ่นใหม่ซึ่งเน้นความมีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการบินมากกว่าด้วยเครื่องบินแบบ 2 เครื่องยนต์ อย่าง Boing 777 และ Boing 787 Dreamliner ซึ่งประหยัดเชื้อเพลิงกว่า จึงได้รับความนิยมมากกว่า จำทำให้ทั้ง Airbus A380 และ Boeing 747 ที่เปลืองเชื้อเพลิงกว่าเพราะใช้ถึง 4 เครื่องยนต์ มีความต้องการลดลงอย่างมาก
จนในที่สุด ปี 2021 Airbus A380 ต้องประกาศเลิกผลิต และทำการส่งมอบ A380 ให้ All Nippon Airways เป็นสายการบินสุดท้าย และส่งมอบลำสุดท้าย ซึ่งผลิตเป็นลำที่ 251 ให้กับสายการบิน Emirates เพื่อเป็นการบอกลา ถือเป็นการสิ้นสุดยุคของเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ Superjumbo แบบ 4 เครื่องยนต์ลงอย่างน่าเสียดาย
อนาคต Airbus
Airbus ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการบิน แล้วนำทั้งประสบการณ์และความเจ็บปวดอันแสนสาหัสจากรอยบาดแผลของโครงการ A380 มาเป็นบทเรียน แล้วลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง ด้วยการพัฒนาเครื่องบินรุ่น Airbus A350 ที่จุผู้โดยสารได้ 300-350 คน และ Airbus A330 Neo ที่จุผู้โดยสารได้ 257 คน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเป็นคู่ปรับกับ Boeing 777 และ Boeing 787 Dreamliner ได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตามกันต่อไปมากครับ
สรุปแล้ว
Airbus A380 คือหนึ่งในสุดยอดเทคโนโลยีอันน่าทึ่ง ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเดินทางทางอากาศ กลายเป็นแรงบันดาลใจในการทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แถมเป็นตัวอย่างที่ดีของการรวมพลังของธุรกิจซึ่งอยู่ในประเทศที่เล็กกว่า เพื่อต่อสู้กับธุรกิจในประเทศที่ใหญ่กว่าอย่างอเมริกา ได้อย่างน่าสนใจมากๆ
แม้ Airbus A380 จะเป็นสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดและจุคนได้มากที่สุดในโลก ซึ่งมาผิดเวลา จนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องบินสุดเจ๋งซึ่งมีอายุสั้นมากแค่สิบกว่าปี แต่พี่เชื่อว่ามันคือบทเรียนราคาแสนแพงที่ Airbus จะได้อะไรอีกมากมายในอนาคต และมันจะอยู่ในใจผู้คนไปอีกแสนนานครับ