โหมโรงจอมสุรางค์ | ระนาดเอก (+เปียโน) | ไทยเดิม by Fino the Ranad
ระนาดเอก-เปียโน ในบทเพลงไทยเดิม "โหมโรงจอมสุรางค์" บทเพลงนี้ประพันธ์ขึ้นโดย นายดาบเจริญ ขุนเจริญดนตรีการ (เจริญ โรหิตโยธิน) ซึ่งมีความไพเราะและคมคาย ประกอบไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายต่าง ๆ สมกับเป็นเพลง "โหมโรง" เนื่องจากเพลงนี้มีชื่อว่า "จอมสุรางค์" (สุระ = อมตะ และ อางค์ (องค์) = ร่างกาย) ซึ่งแปลว่าผู้มีร่างกายอันเป็นอมตะ นั่นก็คือ เทพเทวดา นั่นเอง โน่เลยตีความเพลงนี้ให้เป็นเหมือนการหยอกล้อของ เทวดานางฟ้าบนสวรรค์ ผ่านการใช้กลเม็ดของดนตรีไทยต่าง ๆ เช่น ลูกล้อ ลูกขัด และลูกเหลื่อม ขอให้เพลิดเพลินและมีความสุขไปด้วยกันกับการหยอกล้อของเหล่าเช้าฟ้า อย่าลืมคอมเมนต์ กดไลก์ แชร์ และกดติดตาม เป็นกำลังใจให้ Fino the Ranad ด้วยนะครับ
ระนาดเอก และดนตรีไทย: Fino the Ranad
เปียโน: @tonxpiano
"โน้ตเพลงนี้" อยู่ในกลุ่ม facebook คนระนาดเอก: https://www.facebook.com/groups/647162609563724
TIKTOK (@Finotheranad) http://tiktok.com/@finotheranad
FACEBOOK (Fino the Ranad): https://www.facebook.com/finotheranad
INSTAGRAM (Finomenonn): https://www.instagram.com/finomenonn/
อุปกรณ์ถ่ายทำ // Gear I use:
กล้องวิดีโอ: Blackmagic Design Pocket Cinema Camera 6K Pro
https://bit.ly/3Gu1CM4
จอมอนิเตอร์: Blackmagic Design Video Assist Monitor
https://bit.ly/3mmFScJ
#โหมโรงจอมสุรางค์ #ระนาดเอก #เปียโน #FinoTheRanad
___
ประวัติเพลงโหมโรงจอมสุรางค์
เพลงโหมโรงจอมสุรางค์เป็นเพลงโหมโรงที่เป็นผลงานของนายดาบขุนเจริญดนตรีการ (เจริญ โรหิตโยธิน) เป็นเพลงที่มีสำเนียงแสดงความหมายไปในทางร่าเริงสนุกสนานมีจังหวะที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเป็นอย่างมากและอีกประการหนึ่ง คือ กลอนเพลงจะมีสำนวนคมคาย
เพลงโหมโรงโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต่อด้วยเพลงหนึ่งต่อท้าย สำหรับเพลงโหมโรงจอมสุรางค์ก็ได้ใช้เพลงสะบัดสะบิ้งสองชั้นเป็นเพลงต่อท้าย เพลงสะบัดสะบิ้งเป็นเพลงที่มีลีลาที่กระฉับกระเฉงแล้วก็ไพเราะน่าฟังอยู่ไม่ใช่น้อยและก็จะถูกนำไปใช้ในเพลงโหมโรงอยู่หลายๆเพลง เช่น โหมโรงนางกราย และโหมโรงแปดบท เป็นต้น
(อ้างอิง TK Park Music Library)
___
เพลงโหมโรงคืออะไร?
โหมโรงเป็นชื่อเพลงไทยประเภทหนึ่งที่ใช้เป็นเพลงเริ่มต้นการบรรเลงหรือการแสดง โดยมุ่งหมายเพื่อบอกให้ทราบว่างานหรือพิธีนั้น ๆ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพลงโหมโรงโดยมากจะใช้กลองทัดซึ่งมีเสียงดังได้ยินไปไกลตีประกอบ นอกจากนี้การบรรเลงเพลงโหมโรงยังเป็นการอัญเชิญเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มาประชุมสโมสรในงาน เพื่อจะได้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าภาพและผู้มาร่วมงาน
เพลงโหมโรงแบ่งได้ตามลักษณะของงานหรือมหรสพที่แสดงและลักษณะของการบรรเลง ดังนี้
๑. โหมโรงเย็นและโหมโรงเช้า โหมโรงเย็นใช้สำหรับงานที่มีการนิมนต์พระมาสวดมนต์เย็น เพลงที่ใช้บรรเลงเป็นเพลงชุดจำนวน ๑๖ เพลง แต่ละเพลงจะมีความหมายต่างกันไป ส่วนโหมโรงเช้าใช้สำหรับงานที่มีการทำบุญเลี้ยงพระซึ่งโดยปรกติจะมีลักษณะเป็นการสวดมนต์เย็น-ฉันเช้า มีเพลงรวมอยู่ ๕ เพลง
๒. โหมโรงเทศน์ใช้บรรเลงเพื่อเป็นการประกาศให้ทราบว่าที่บ้านนี้หรือวัดนี้จะมีพระธรรมเทศนา
๓. โหมโรงการแสดงมหรสพและโหมโรงกลางวันใช้บรรเลงเป็นการประกาศให้ทราบว่าที่นี่จะมีการแสดงมหรสพ
๔. โหมโรงเสภาประกอบด้วยเพลงรัวประลองเสภาและเพลงโหมโรง เมื่อจะจบเพลงต้องลงท้ายแบบเพลงวาเท่านั้น
๕. โหมโรงมโหรี มโหรีเดิมเป็นของผู้หญิงเล่น ผู้ชายเพิ่งจะเล่นเมื่อไม่นานมานี้
๖. โหมโรงหุ่นกระบอกใช้ในการแสดงหุ่นกระบอก
๗. โหมโรงหนังใหญ่ใช้บรรเลงก่อนจะดำเนินเรื่องหนังใหญ่
(อ้างอิง ราชบัณฑิตยสภา)