ในคำสอนของพระพุทธเจ้า สังสารวัฏ - การเวียนว่ายตายเกิดเป็นหนึ่งในคำสอนพื้นฐานที่สำคัญ พระพุทธเจ้าศากยมุนีพุทธเจ้าทรงชี้ว่า: การเกิดใหม่คือการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสรรพสัตว์ การเกิดใหม่คือความต่อเนื่องของชีวิตในอดีต การยอมรับชีวิตใหม่ ชีวิตใหม่ ร่างกายใหม่ และอาจเป็นโลกใหม่ ความแตกต่างคือสิ่งมีชีวิตธรรมดาจะเกิดใหม่อย่างเฉยเมยตามการชี้นำของกรรมในขณะที่ผู้รู้แจ้งและพระโพธิสัตว์เกิดใหม่อย่างแข็งขันภายใต้พลังแห่งความเมตตาเพื่อประโยชน์ของทุกคน ใจดีทั้งหมด
ในประวัติศาสตร์ของหลายประเทศรวมถึงเวียดนาม มีการบันทึกเรื่องราวการกลับชาติมาเกิดที่แท้จริงไว้มากมาย ส่วนหนึ่งเป็นการตอกย้ำคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าไม่เป็นเท็จ
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ระหว่างการเยือนเวียดนามของราชวงศ์ภูฏาน นำโดย สมเด็จพระราชินีอาชิ ดอร์จี วังโม วังชุก และเจ้าหญิงอาชิ โซนัม เดชาน วังชุก คณะผู้แทนได้จุดประกายความศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกครั้งเกี่ยวกับคำสอนของการเปลี่ยนแปลงการกลับชาติมาเกิด (หลานชายของพระอัครมเหสี) ไวโรจนะ รินโปเช - รับรองการกลับชาติมาเกิดที่แท้จริงของมหาสิทธา ไวโรชนะ นักแปลผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 8 ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกที่ยิ่งใหญ่ 25 คนของปัทมสัมภวะประสูติและเป็นหนึ่งในพระภิกษุ 7 คนแรกของพุทธศาสนาในทิเบต ตั้งแต่อายุยังน้อย เขาได้ระลึกถึงอดีตชาติของเขาและแสดงภูมิปัญญาพิเศษซึ่งเขาได้ฝึกฝนและประสบความสำเร็จในชาติที่แล้ว ระหว่างการเสด็จเยือนเวียดนามครั้งแรก ณ การพบปะกับชาวพุทธในที่ราบสูงตามด๋าว รินโปเชได้บรรยายธรรมเป็นภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยมาจากภูมิปัญญาธรรมชาติล้วน ๆ โดยที่สิ่งนี้ไม่ได้จัดหรือเตรียมการล่วงหน้า ทำให้อัครมเหสีและทุกคนประหลาดใจ ที่ประชุมประหลาดใจมากจึงเปี่ยมล้นด้วยศรัทธาอันบริสุทธิ์ในพระโพธิสัตว์อวตาร
คำสอนของพระองค์เรียบง่ายเป็นคำพูดแต่ลึกซึ้งและจริงอย่างยิ่ง โปรดแบ่งปันเป็นของขวัญอันเป็นมงคลแก่ทุกคน!
In the teachings of the Buddha, samsara - the cycle of rebirth is one of the fundamental teachings. Shakyamuni Buddha pointed out: Rebirth is the change of all things. especially for animals Reincarnation is a continuation of a past life. accepting new life new life A new body, and possibly a new world. The difference is that ordinary beings are reincarnated passively according to the karma's guidance, while enlightened beings and bodhisattvas are actively reincarnated under the power of mercy for the benefit of all, all benevolent.
In the history of many countries including Vietnam Many true reincarnation stories have been recorded. In part, it reinforces the Buddha's teachings that are not false.
Last December During the Bhutan Royal Family's visit to Vietnam led by Her Majesty Queen Ashi Dorji Wangmo Wangchuck and Princess Achi Sonam Dechan Wangchuck, the delegation once again rekindled their faith in the Buddha's teachings on with the teachings of reincarnation transformation (Grandson of Empress Dowager) Vairojana Rinpoche -The true reincarnation of Maha Siddha Vairojana, a great 8th-century translator who was one of the 25 great disciples of Padmasambhava, was born and one of the first 7 monks of Buddhism in Tibet from a young age. He recalled his past life and displayed special wisdom which he had cultivated and achieved in his previous life during his first visit to Vietnam at a meeting with Buddhists in the Tam Dao highlands Rinpoche gave a sermon in English for the first time It comes from purely natural wisdom, without this being organized or prepared in advance. astonishing the Empress Dowager and everyone The assembly was so amazed that they were filled with pure faith in the incarnation of the Bodhisattva.
His teachings were simple in words but profound and true. Please share this auspicious gift to everyone!
ท่านพูดถึงพื้นฐานที่จะนำไปสู่...
"ความรู้แจ้งในธรรม"
(enlightenment)
ซึ่งท่านกล่าวว่ามี 5 ขั้น:
ขั้นที่ 1 คือ อย่ายึดติดกับสิ่งใดๆ ท่านหยิบสิ่งของบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วยกตัวอย่างว่า ถ้าท่านเป็นคนรวย ท่านก็จะมีของเหล่านี้ และท่านก็จะยึดว่ามันเป็นสิ่งของของท่าน แม้ว่า (ในอนาคต) ท่านอาจจะสูญเสียมันไปก็ตาม
ขั้นที่ 2 คือ อย่าโกรธง่าย คุณจะต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณโกรธแล้วโวยวายใส่ผู้อื่น ทั้งคุณและเขาก็จะไม่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ขั้นที่ 3 คือ ต้องไม่อาฆาตพยาบาท ถ้าใครทำไม่ดีกับคุณ แล้วคุณต้องการเอาคืนในรูปแบบเดียวกัน มันก็จะไม่ดี เหมือนที่กล่าวไว้แล้วในขั้นที่สอง ทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นคนไม่ดี และจะวนเวียนอยู่ในวงจรของการล้างแค้นกัน
ขั้นที่ 4 ท่านให้ตัวอย่าง เช่น หากมีใครสักคนมาพูดไม่ดีกับคุณเพราะเขาได้รับการยุยงมาจากบุคคลที่สาม คุณก็ไม่ควรจะโกรธและว่าบุคคลนั้นเป็นคนไม่ดี ในทางกลับกันคุณควรพูดแต่ในสิ่งที่ดีๆเกี่ยวกับบุคคลผู้นั้น เพราะถ้าคุณพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเขา ก็จะเป็นการสร้างวัฏจักรแห่งความเกลียดชังที่ไม่มีวันจะสิ้นสุด
ขั้นที่ 5 หากคุณมีสิ่งที่พูดมาทั้งหมด ความยึดติด(Attachment) ความโกรธ(Anger) ความโง่เขลา,อวิชชา (Igorance)ในใจคุณ และถ้าคุณสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ คุณก็จะเป็นผู้รู้แจ้งในธรรม