๐ กุหลาบหิน กุหลาบหินเหลืองมาเลย์ กุหลาบหินมาเลเซีย และกุหลาบหินใบด่างชมพู
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Kalanchoe blossfeldiana ชื่อพ้อง Kalanchoe coccinea var. bossfeldiana
ชื่อสกุล “Kalanchoe” มาจากคำในภาษาจีน ใช้เรียกไม้อวบน้ำจำพวกหนึ่ง
ชื่อชนิดพันธุ์ “blossfeldiana” ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ Robert Blossfeld (1882-1945) นักพฤกษศาสตร์ ผู้ เชี่ยวชาญพรรณไม้อวบน้ำหลายชนิด
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Kalanchoe, Christmas Kalanchoe, Flaming Katy
๐ ชนิด (Type): ไม้เนื้ออ่อนมีอายุอยู่ได้หลายปี (Herbaceous perennial)
๐ วงศ์ (Family): Crassulaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : มาดากัสการ์
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 50-150 เซนติเมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 50-150 เซนติเมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกตามฤดูกาล ในบางชนิดพันธุ์ก็ทยอยออกดอกตลอดทั้งปี ทั้งนี้บางชนิดพันธุ์ก็จะมีการออกดอกไม่ตรงตามระยะเวลาโดยจะสุ่มออกดอกไปเรื่อย ๆ จัดเป็นต้นไม้ที่มีการออกดอกต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนาน โดยดอกออกเป็นแบบช่อช่อกระจุกซ้อนเชิงประกอบ (Compound dichasium) ช่อดอกที่มีหลายช่อกระจุกซ้อนเดี่ยว ดอกย่อยมีกลีบดอก 4 กลีบ มีหลายสี อาทิ แดง ขาว เหลือง ชมพู ม่วง เป็นต้น
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวัน จนถึงแดดบางส่วนของวัน
๐ ความต้องการน้ำ (Water): น้อยถึงปานกลาง
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ ควรมีการตัดแต่งทรงพุ่มและปลิดใบล่างที่มีการทิ้งใบออกบ้าง มีข้อเด่นคือเป็นต้นไม้ที่สามารถทนต่อการขาดน้ำติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัดหรือทนแล้งได้ดี
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ปลูกเป็นไม้กระถาง บางชนิดพันธุ์สามารถปลูกเป็นไม้คลุมดิน สำหรับบางชนิดพันธุ์ที่มีความสูงมากสามารถปลูกเป็นไม้พุ่มปลูกประดับในสวนกลางแจ้งได้ดี
๐ ใบไม้ (Leaf): ใบเดี่ยวขึ้นเรียงสลับบนลำต้นและกิ่ง มีรูปแบบใบและขนาดมีหลากหลายตามแต่ชนิดพันธุ์ มีขอบใบเป็นหยัก
๐ การเพาะปลูก (Culture)
ธรรมชาติของกุหลาบหินเป็นพืชที่เจริญเติบโตในพื้นที่แห้งแล้ง ได้รับน้ำน้อย คุ้นเคยกับสภาพดินทรายที่มีการระบายน้ำดี ควรปลูกในวัสดุปลูกที่มีความร่วน มีความสามารถระบายน้ำได้ดีและถ่ายเทอากาศได้ดี แม้ว่าเป็นพืชที่ไม่ต้องการความอุดมสมบูรณ์ของอินทรีย์วัตถุมากนัก แต่การปรุงดินให้มีความสมบูรณ์ของอินทรีย์วัตถุสูงก็จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตได้ดีและสามารถกระตุ้นการออกดอกได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการสนับสนุนการเจริญเติบโต ด้วยการให้ขาดไนโตรเจนจำนวนมากจะทำให้แตกใบมากจนมีลักษณะ “เฝือใบ” โดยพืชจะไม่สร้างดอก นอกจากนี้แล้วการปลูกในดินเหนียวและการให้น้ำมากเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากจะทำให้เกิดใบและรากเน่าได้ง่าย การปลูกในกระถางควรรองก้นกระถางก้วยหินภูเขาไป หรือกรวด เพื่อส่งเสริมให้ระบายน้ำได้ดีขึ้น และส่วนผสมวัสดุปลูกที่มีทรายหรือเพอร์ไลท์อยู่ในดินด้วยจะยิ่งส่งเสริมการระบายน้ำให้ดีมากยิ่งขึ้น
๐ ปัญหา (Problems)
ระวังการให้น้ำจำนวนมาก ทำให้เกิดรากและใบเน่า มีศัตรูตามธรรมชาติที่เข้าทำลายดูดกินน้ำเลี้ยง เช่น เพลี้ยชนิดต่าง ๆ
๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง
๐ Muuyehn Studio หรือ มือเย็น สตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะครับผม