ทองคำไปอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไ้ดอย่างไร Y2Learn? จะเล่าให้่ฟัง
คุณรู้หรือไม่ ทำไมทองคำ ถึงมาอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
Y2learn จะเล่าให้ฟัง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรารับรู้ข้อมูลข่าวสารการสกัดทองคำจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอกนิกส์ผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ มากมาย บางคลิปวีดิโอมียอดวิวทะลุล้านวิว แต่คุณเคยสงสัยกันไหมว่าทองคำไปอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกเหล่านั้นได้อย่างไร
ทองคำมีคุณสมบัติทางเคมี ที่โดดเด่นมาก ในเรื่องความ ไม่ว่องไวต่อการทำปฏิกิริยาเคมี จึงทนต่อการผุกร่อน แต่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีบางชนิด เช่น คลอรีน ฟลูออรีน น้ำประสานทอง (Sodium borate) หรือบอแรกซ์ ทองคำมีความอ่อนตัวมากที่สุด ทองคำน้ำหนัก 1 บาท หรือประมาณ 15 กรัม สามารถยืดเป็นเส้นลวดยาวได้ถึง 4กิโลเมตร หรือนำมาตีเป็นแผ่นบางๆ ได้ประมาณ 4.5 ตารางเมตร ทองคำยังมีสมบัติการนำไฟฟ้าได้ดี สะท้อนความร้อนได้ดี คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้ทองคำเป็นที่หมายปองของมนุษย์มาเป็นเวลานับพันปี โดยนำมาตีมูลค่าสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
ปัจจุบันมีการนำทองคำมาใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 8% ของทองคำทั้งหมดที่ผลิตได้ในแต่ละปี หรือคิดเป็นประมาณ 250 ตัน ส่วนมากจะใช้ทองคำกับงานเชื่อมต่อภายในวงจร ใช้เป็นตัวนำไฟฟ้าและใช้ในงานหน้าสัมผัสภายในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการนำทองคำมาใช้เป็นวัสดุที่ทำหน้าที่สัมผัสในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ
ทองคำมีความเสถียร ที่มาพร้อมความต้านทานต่ำ แม้จะมีหน้าสัมผัสที่บางมากๆ และจุดเชื่อมต่อที่ทำจากทองคำยังทนอุณหภูมิสูงได้ เพราะทองคำนำไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก มีเฉพาะเงินและทองแดงเท่านั้นที่นำไฟฟ้าได้สูงกว่าทองคำ แต่เงินและทองแดงมีแนวโน้มมีแนวโน้ม ที่จะเกิดการกัดกร่อน ทำให้เกิดความต้านทานต่อการไหลของกระแสไฟฟ้า แต่ทองคำมีความคงทนต่อการกัดกร่อน จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากข้อมูลดังกล่าว คงพอจะเข้าใจได้แล้วว่าทำไมทองคำจึงมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทำไมทองคำถึงมีราคาแพงขึ้นๆ ทุกๆ วัน ช่วงนี้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นทุกวัน แล้วท่านผู้ชมละครับขายทำกำไรกันบ้างหรือยังครับ