แขกมอญสามชั้น : หลวงไพเราะเสียงซอ เดี่ยวซออู้
- ประวัติเพลง แขกมอญสามชั้น -
เพลงแขกมอญเดิมเป็นเพลงอัตรา ๒ ชั้น เป็นเพลงเก่าสมัยอยุธยา มี ๓ ท่อน ทำนองไพเราะสละสลวย นิยมใช้บรรเลงออกเพลงประจำวันของวงปี่พาทย์มอญ
ต่อมา พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้แต่งจากเพลงแขกมอญ ๒ ชั้น ทำนองเก่า โดยแต่งเพลง ๓ ชั้น เป็นทางธรรมดาและทางเดี่ยว เพื่อบรรเลงอวดฝีมือของนักดนตรี ทางเดี่ยวนี้มีหลายท่านได้แต่งสำหรับเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ เช่น ครูพุ่ม ปาปุยะวาท แต่งเพลงสามชั้นทางเดี่ยวระนาดทุ้ม หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) นำทำนองของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) มาเป็นแนว ให้เป็นเพลงที่มีลีลาพลิกแพลงด้วยกลเม็ดเด็ดพรายตามแบบของเพลงเดี่ยวด้วย เครื่องดนตรีอีกหลายชนิด
ใน พ.ศ. ๒๔๗๖ ครูมนตรี ตราโมท ได้ตัดเป็นอัตราชั้นเดียว และนำทำนอง ๒ ชั้นทางธรรมดาของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) และทำนอง ๒ ชั้นทางเก่ามารวมบรรเลงและขับร้องเป็นเพลงเถา ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
- ประวัติ ครูหลวงไพเราะเสียงซอ -
หลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) เกิดเมื่อ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๓๕ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ที่ตำบลหน้าไม้ อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา บิดาชื่อ พยอม มารดาชื่อเทียม ท่านเริ่มศึกษาวิชาดนตรี โดยเรียนสีซอด้วงจากบิดา
ต่อมาท่านเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ รับราชการในกองดนตรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘ ครั้นสมเด็จพระบรมฯ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) มหาดเล็กทั้งปวงซึ่งเป็นข้าหลวงเดิม ก็ปรับตำแหน่งหน้าที่ราชการเข้าเป็นทำเนียบมหาดเล็กประจำ ท่านจึงได้รับยศเป็นมหาดเล็กวิเศษ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แปรพระราชฐาน จะต้องมีวงดนตรีตามเสด็จ ท่านก็ตามเสด็จด้วยทุกครั้ง จนได้รับพระราชทานยศเป็น รองหุ้มแพร มีบรรดาศักดิ์เป็น ขุนดนตรีบรรเลง และในวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๐ ท่านก็ได้รับเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น หลวงไพเราะเสียงซอ
ในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้น หลวงไพเราะเสียงซอได้สอนวงดนตรีเครื่องสายของ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชเทวี วงพระสุจริตสุดา และวงพระยาอนิสุทธาทวา
เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ ๗ ท่านได้ถวายการสอน เจ้านายในวงเครื่องสาย ซึ่งประกอบด้วย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี กรมหมื่นอนุพงศ์จักรพรรดิ์ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ มจ.ถาวรมงคล และ มจ.แววจักร จักรพันธ์ นอกจากนั้นยังได้ถวายการสอนให้กับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตมงคล และข้าหลวงในวังอีกด้วย
ต่อมากรมศิลปากรได้เชิญท่านให้สอนประจำที่วิทยาลัยนาฎศิลป์และสุดท้ายท่านยังได้สอนและปรับปรุงวงดนตรีไทยของสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง จนทำให้วงดนตรีไทยของธรรมศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในเวลาต่อมา
หลวงไพเราะเสียงซอ ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๘ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมสิริอายุได้ ๘๔ ปี
(ที่มาประวัติหลวงไพเราะเสียงซอ : เวปไซด์ staffzone.amnuaysilpa,
ที่มาประวัติเพลง : เพจปี่พาทย์นาคพิทักษ์ศิลป์)
ที่มาภาพถ่าย : คุณกฤษ วิเศษสุวรรณภูมิ
อนุเคราะห์เทปคาสเซ็ท : ผศ.อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย
สำเนาเสียงจากเทปคาสเซ็ท : ฉัตรกร เกตุมี
เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์เพลงไทยในการศึกษา มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวงหารายได้
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.youtube.com/channel/UCfJUN8NZReI3o-tbjJbVG6w