ในหมู่บ้านเล็กๆ
แห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี
ซึ่งไม่ได้ห่างไกลจากตัวเมืองมากนัก
แต่ทางเข้าหมู่บ้านกลับเปลี่ยวและกันดาร
ถนนลาดยางที่พาดผ่านนั้นขรุขระและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ
ร่องรอยของน้ำท่วมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงสภาพภูมิประเทศที่น้ำหลากบ่อยครั้ง
หมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมูล น้ำไหลเอื่อยๆ
ผ่านทิวทัศน์ของทุ่งนาสีเขียวขจี
แต่แม้จะอยู่ใกล้กับความเจริญของเมืองใหญ่
ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับยังคงประกอบอาชีพชาวนา
และชาวประมงพื้นบ้าน
ห่างไกลจากความสะดวกสบายของชีวิตในเมือง
ตาอ่อน
ชายวัย 52 ปี
เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ยังคงยึดมั่นในวิถีชีวิตดั้งเดิม
ทุกเช้าเขาจะตื่นขึ้นก่อนแสงอาทิตย์
เพื่อเตรียมตัวเข้าไปในป่า
หาฟืนและเศษไม้เพื่อนำมาทำถ่านขาย
ชีวิตของตาอ่อนนั้นลำบากยิ่งกว่าใคร
เพราะเขาต้องเลี้ยงดูเมียที่ป่วยติดเตียง
ด้วยโรคเบาหวานที่ลุกลามลงไปถึงหัวเข่า
ทำให้เธอไม่สามารถเดินได้
คืนนั้น
ลมพัดเอื่อยๆผ่านหน้าต่างบ้านไม้เก่าๆ
ของตาอ่อน เขานอนฟังเสียงหายใจของเมียที่นอนอยู่ข้างๆ
แสงจันทร์ส่องผ่านช่องว่างของหลังคา
ทำให้เงาของต้นไม้เต้นระบำบนผนัง
พรุ่งนี้ฉันจะไปหาฟืนให้ไกลขึ้นหน่อยนะยาย
ตาอ่อนพูดเบาๆ
ขณะที่มองดูใบหน้าซีดเซียวของเมีย
ระวังตัวด้วยนะตา
ป่าช่วงนี้มีคนเค้าว่ามีอะไรแปลกๆ
เมียเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
แต่แฝงไปด้วยความห่วงใย
ไม่ต้องห่วงหรอกยาย
ฉันดูแลตัวเองได้
เขายิ้มให้เธอ
ก่อนจะห่มผ้าให้เมียและนอนหลับไป
ยามเช้าตรู่
เสียงไก่ขันดังขึ้นทั่วหมู่บ้าน
ตาอ่อนตื่นขึ้นมาเตรียมอุปกรณ์
ทั้งขวาน
มีด
และรถเข็นเก่าๆ
เขาจัดเตรียมอาหารเช้าให้เมีย
วางข้าวต้มอุ่นๆไว้ข้างเตียง
ฉันออกไปแล้วนะยาย
ถ้ามีอะไรเรียกเพื่อนบ้านได้นะ
เขาบอกก่อนจะออกจากบ้าน
จ้ะ
ระวังตัวด้วยนะ
เมียเขายิ้มบางๆ
ตาอ่อนเดินตามทางดินที่นำไปสู่ป่า
ทางเดินนั้นเงียบสงบ
มีเพียงเสียงนกร้องและเสียงลมพัดผ่านต้นไม้
เขาตัดสินใจไปทางทิศเหนือ
ใกล้ริมน้ำมูล ซึ่งช่วงนี้น้ำลด
ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกติถูกน้ำท่วมได้
เมื่อเดินมาถึงป่าใกล้ริมน้ำ
เขาพบกับทิวต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นสูงตระหง่าน
ต้นโพธิ์
ต้นไทร
ต้นไผ่
และต้นยางแซมๆกันอยู่
แสงแดดส่องผ่านใบไม้
ทำให้เกิดเงาลายบนพื้นดิน
วันนี้โชคดีจริงๆไม้เยอะเลย
ตาอ่อนพูดกับตัวเอง
พร้อมปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก
เขาเริ่มเก็บเศษไม้ที่หล่นอยู่บนพื้น
ลากมาวางไว้ข้างรถเข็น
ไม้บางชิ้นต้องใช้ขวานตัดให้เล็กลงเพื่อให้ง่ายต่อการขนย้าย
เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน
เดี๋ยวไม่มีแรงเข็นรถกลับ
เขาหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะกลับ
ตาอ่อนหยิบธูปขึ้นมาหนึ่งดอก
จุดไฟแล้วปักลงบนพื้นดิน
เขายกมือขึ้นเหนือหัว
ข้าน้อยขอขอบคุณเจ้าที่เจ้าทาง
ที่ให้ข้าได้หาไม้ไปทำมาหากิน
ขอให้ท่านคุ้มครอง
ทันใดนั้น
ลมเย็นๆพัดมาจากด้านหลัง
วูบหนึ่งทำให้ขนบนต้นคอตาอ่อนลุกชัน
เขาหันไปมองรอบๆแต่ไม่เห็นอะไรผิดปกติ
เมื่อตะกี้นี้อะไรหว่า.
เขาพูดกับตัวเอง
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น
เขาก็ต้องตกใจ
เมื่อเห็นศาลสีดำตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณห้าเมตร
เอ๊ะ.
มีศาลอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ตาอ่อนสงสัย เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
ด้วยความเคารพ
เขาหยิบธูปอีกดอกหนึ่ง
จุดไฟแล้วเดินไปที่ศาลสีดำนั้น
เขาปักธูปลงหน้า ศาลแล้วยกมือขึ้นเหนือหัว
ข้าน้อยมาขอไม้
หวังว่าเจ้าที่เจ้าทางท่านคงไม่ว่าอะไร
สาธุ
ขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับ
เขาได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆพูดขึ้นมาเบาๆ
เหมือนเสียงลมผ่านหู
อยากได้แค่ไม้เหรอ.
ตาอ่อนขนลุกชัน
หยุดชะงัก หันมองซ้ายขวา
ใคร.
ใครพูด
เขาพูดด้วยเสียงสั่นๆ
ถ้าอยากได้อะไรมากกว่านี้
ก็ขอจากข้าสิ
เสียงนั้นดังมาจากศาลสีดำ
ตาอ่อนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าศาล
พนมมือขึ้นสูง ก้มกราบ
ข้า.
ข้าแค่อยากให้ชีวิตข้าสบายขึ้น
ข้าไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านั้น
งั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง
เสียงนั้นตอบกลับมา
ตาอ่อนรู้สึกประหลาดใจ
และกลัวในเวลาเดียวกัน
แต่ก็ขอบคุณ
ขอบคุณท่านมาก
ข้าจะไม่ลืมพระคุณนี้
เมื่อกลับมาถึงบ้าน
ตาอ่อนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เมียฟัง
ขณะที่เธอกำลังนั่งทานข้าวที่เขาเตรียมไว้
แกไปเจออะไรมาเหรอตา
ทำไมดูตื่นเต้นจัง
เมียถามด้วยความสงสัย
วันนี้ข้าไปเจอศาลสีดำ
แล้วมีเสียงผู้หญิงแก่ๆพูดกับข้าด้วย
เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
แล้วแกขออะไรจากเขาล่ะ
เมียยิ้มเล็กน้อย
ข้าก็แค่ขอให้ชีวิตเราสบายขึ้น
แค่นั้นเอง
แค่นี้ฉันก็ว่าเราก็ไม่ได้ลำบากมากนะ
มีแกมีฉันอยู่ด้วยกันก็ดีถมเถแล้ว
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
แต่ข้าก็อยากให้แกสบายกว่านี้
ไม่ต้องทนปวดที่ขาอีกต่อไป
ตาอ่อนจับมือเมียเบาๆ
เสียงหม้อข้าวดัง
ปิ๊ก
เป็นสัญญาณว่าข้าวสุกแล้ว
เดี๋ยวข้าไปตักข้าวมาให้นะยาย
เขาลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น
คืนนั้น
ตาอ่อนนอนมองเพดานมือก่ายหน้าผาก
คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
เขาสงสัยว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝันหรือเกิดขึ้นจริงๆ
หรือว่าข้าจะคิดไปเอง
เขาพูดกับตัวเอง
ก่อนจะหลับไปด้วยความสับสน
เช้าวันต่อมา
ตาอ่อนตื่นขึ้นมาเตรียมข้าวปลาอาหารให้เมียเช่นเคย
แต่ครั้งนี้เขาเตรียมของไหว้
ใส่กระทงที่ทำจากใบตองและต้นกล้วย
มีผลไม้และอาหารเล็กๆน้อยๆ
วันนี้ข้าจะกลับไปที่ศาลนั้นอีกครั้ง
เขาบอกเมีย
ระวังตัวด้วยนะตา
เธอยิ้มให้กำลังใจ
ตาอ่อนเข็นรถเข็นที่มีของไหว้วางอยู่ข้างหน้า
เดินตามทางดินมุ่งหน้าไปยังป่า
เมื่อมาถึงที่ที่เขาเจอศาลสีดำเมื่อวาน
เขากลับพบว่าศาลนั้นหายไปแล้ว
เอ๊ะ.
มันอยู่ตรงนี้นี่นา เขาเกาหัว
มองไปรอบๆแต่ไม่พบร่องรอยของศาล
แม้จะสงสัย
แต่เขาก็ยังวางกระทงของไหว้ตรงที่เขาคิดว่าศาลตั้งอยู่
ยกมือขึ้นเหนือหัว
ข้าขอถวายของไหว้นี้ให้ท่าน
หวังว่าท่านจะรับไว้
หลังจากนั้น
เขาก็เดินเข้าไปในป่า
เพื่อหาไม้เพิ่มเติม
แต่ในใจยังคงคิดถึงเรื่องศาลสีดำนั้น
หรือว่าข้าจะฝันไปจริงๆ
เขาพึมพำกับตัวเอง
ขณะที่กำลังตัดไม้
เขารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมอง
เขาหันไปมองแต่ไม่พบใคร